xs
xsm
sm
md
lg

US ขายบินขับไล่ “เอฟ-15” ให้ซาอุฯ 84 ลำ หวังเสริมแสนยานุภาพ-ข่มอิหร่าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สหรัฐฯ เปิดเผยถึงการขาย เอฟ-15 ฝูงใหม่ให้กับซาอุดีอาระเบีย 84 ลำ ขณะที่อิหร่านขู่ปิดช่องแคบฮอร์มุซ
เอเอฟพี - สหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (29) กรณีสัญญาขายยุทโธปกรณ์ให้กองทัพซาอุดีอาระเบีย มูลค่าเกือบ 30,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องบินขับไล่ เอฟ-15 จำนวนถึง 84 ลำ นับเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญต่อสถานการณ์ในอ่าวเปอร์เซีย ขณะที่อิหร่านขู่ปิดช่องแคบฮอร์มุซ เส้นทางสัญจรสำคัญของเรือเดินสมุทรบรรทุกน้ำมัน หากถูกชาติตะวันตกบังคับใช้มาตรการลงโทษต่อเศรษฐกิจเพิ่มเติม กรณีโครงการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์

สัญญาซื้อขายยุทโธปกรณ์มูลค่า 29,400 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 930,000 ล้านบาท) ฉบับนี้ มีการลงนามกันตั้งแต่วันเสาร์ (24) ที่ผ่านมา โดยสหรัฐฯ ตกลงขายเครื่องบินขับไล่ โบอิ้ง เอฟ-15 เอสเอ 84 ลำ พร้อมเครื่องกระสุน อะไหล่สำรอง และจะช่วยยกเครื่องฝูงบินเอฟ-15 เดิมของซาอุดีอาระเบียอีก 70 ลำ ประกอบกับโครงการฝึกอบรบ และซ่อมบำรุง เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผย

“การซื้อขายครั้งนี้จะส่งข้อความที่ชัดเจนถึงประเทศต่างๆ รอบอ่าวเปอร์เซียว่า สหรัฐฯ พร้อมเข้าสร้างเสถียรภาพในอ่าวเปอร์เซีย และชายแดนตะวันออกกลาง” แอนดรูว์ ชาพิโร ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านกลาโหม แถลงข่าวในกรุงวอชิงตัน

“ฝูงบินเอฟ-15 จะเพิ่มแสนยานุภาพของซาอุดีอาระเบีย ในการขัดขวางและปกป้องการคุกคามเอกราชของประเทศจากภายนอก”

สัญญาฉบับนี้ได้รับการเปิดเผยครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2010 และเป็นเพียงส่วนหนึ่งในโครงการขายอาวุธให้ซาอุดีอาระเบียมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท)

นอกจากนี้ จอช เอียร์เนสต์ รองโฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงว่า สัญญากับกรุงริยาดฉบับนี้จะช่วยสร้างงานให้ชาวอเมริกันมากกว่า 50,000 ตำแหน่ง ขณะประเทศกำลังมีปัญหาอัตราการว่างงานสูง และจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจราว 3,500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 100,000 ล้านบาท) ต่อปี

ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ รองประธานาธิบดีโมฮัมหมัด เรซา ราฮิมี แห่งอิหร่าน เพิ่งประกาศเตือนโลกว่า “จะไม่มีน้ำมันแม้แต่หยดเดียวผ่านช่องแคบฮอร์มุซ” ช่องทางเดินเรือออกจากอ่าวเปอร์เซีย หากชาติตะวันตกบังคับใช้มาตรการลงโทษเศรษฐกิจอิหร่านเพิ่มเติม กรณีโครงการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งสหรัฐฯ กล่าวหาว่า กรุงเตหะรานลอบพัฒนาอาวุธ

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า อิหร่านเองก็ไม่ต้องการใช้วิธีดังกล่าว เนื่องจากช่องแคบฮอร์มุซเป็นช่องทางการส่งออกน้ำมันของอิหร่านเช่นกัน

แอนดรูว์ ชาพิโร เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯ จำเป็นต้องขายอาวุธให้ซาอุดีอาระเบีย เพื่อตอบโต้ท่าทีคุกคามอย่างชัดเจนของอิหร่าน

“ซาอุดีอาระเบียมีปัญหาเรื่องความมั่นคงบริเวณชายแดน อีกทั้งการคุกคามในอ่าวเปอร์เซีย และที่ชัดเจน คือ ซาอุดีอาระเบียกำลังเผชิญหน้ากับอิหร่าน”

ขณะเดียวกัน เจมส์ มิลเลอร์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อธิบายเพิ่มเติมว่า ฝูงบินเอฟ-15 ดังกล่าว “จะเป็นอากาศยานที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในฝูงบินรบของกองทัพซาอุดีอาระเบีย ... เอฟ-15 รุ่นนี้สามารถทำศึกได้ไม่ว่ากลางวัน หรือกลางคืน ในทุกสภาพอากาศ ด้วยเครื่องกระสุนนำวิถีความแม่นยำสูง”

ที่สำคัญ มิลเลอร์เปิดเผยว่า ด้วยระบบการสื่อสารระหว่างเครื่องเอฟ-15 นักบินสหรัฐฯ และนักบินซาอุฯ สามารถประสานงานบนน่านฟ้าเดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ การส่งมอบเครื่องบินชุดแรกจะมีขึ้นช่วงต้นปี 2015 ขณะที่สหรัฐฯ จะเข้าพัฒนาฝูงบิน เอฟ-15 เดิมที่ซาอุดีอาระเบียมีอยู่แล้ว ช่วงปี 2014 ส่วนเงินก้อนแรก กรุงริยาดจะจ่ายให้ภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น