xs
xsm
sm
md
lg

ผลสำรวจชี้ชาวญี่ปุ่นกว่า 80% ต้องการให้เลิกใช้พลังงานนิวเคลียร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผลกระทบจากวิกฤตนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้า ฟูกูชิมะ ไดอิจิ ทำให้ชาวญี่ปุ่นกว่าร้อยละ 80 ปฏิเสธพลังงานนิวเคลียร์
เอเอฟพี - ชาวญี่ปุ่นกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ต้องการให้รัฐบาลเลิกใช้พลังงานนิวเคลียร์ หลังเกิดวิกฤตโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ผลสำรวจเผย

ญี่ปุ่นซึ่งมีทรัพยากรธรรมชาติค่อนข้างน้อย ต้องอาศัยพลังงานนิวเคลียร์เพื่อตอบสนองความต้องการไฟฟ้าถึง 1 ใน 3 ของประเทศ และนายกรัฐมนตรี นาโอโตะ คัง ก็ยืนยันแล้วว่า พลังงานชนิดนี้จะยังเป็นส่วนสำคัญของนโยบายด้านพลังงานต่อไป

ทว่าผลสำรวจโดยหนังสือพิมพ์ โตเกียว ชิมบุน พบว่า ประชากรร้อยละ 82 ต้องการให้ญี่ปุ่นยุติการใช้พลังงานนิวเคลียร์โดยสิ้นเชิง

ร้อยละ 9 ต้องการให้รัฐบาลปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั้งหมดทันที ส่วนอีกร้อยละ 19 ต้องการให้ทยอยปลดประจำการเตาปฏิกรณ์ทีละแห่ง เมื่อมีการตรวจสภาพครั้งถัดไป

ประชาชนเกือบร้อยละ 54 ต้องการให้รัฐบาลเลิกใช้เตาปฏิกรณ์ทันทีที่สถานการณ์เอื้ออำนวย มีเพียงร้อยละ 14 ที่ยังต้องการให้ประเทศพึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์ต่อไป

“ผลสำรวจครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความไม่เชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อนโยบายพลังงานของรัฐ” โตเกียว ชิมบุน ระบุ

ผลสำรวจดังกล่าวถูกเผยแพร่ หลังจากเตาปฏิกรณ์ 4 แห่งของโรงไฟฟ้า ฟูกูชิมะ ไดอิจิ ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม จนมีสารกัมมันตรังสีรั่วไหลออกสู่สิ่งแวดล้อมอย่างกว้างขวาง คนงานโรงไฟฟ้าต้องพยายามฉีดน้ำเข้าไปหล่อแกนปฏิกรณ์และบ่อเก็บแท่งเชื้อเพลิงใช้แล้ว เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการหลอมละลาย ทว่าก็ส่งผลให้มีน้ำปนเปื้อนรังสีขังอยู่ในห้องใต้ดิน, ทางระบายน้ำ และคูน้ำภายในโรงไฟฟ้า นับเป็นปริมาณกว่า 100,000 ตัน โดยบางส่วนก็รั่วไหลออกสู่มหาสมุทรด้วย

ผลสำรวจครั้งนี้ยังพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 67 จากทั้งหมด 1,853 คน ระบุว่า ญี่ปุ่นไม่ควรสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพิ่มเติม ส่วนอีกร้อยละ 22 ขอให้รัฐบาลลดจำนวนเตาปฏิกรณ์ที่ตั้งเป้าว่าจะสร้างในอนาคต

มีเพียงร้อยละ 6 ที่คิดว่า รัฐบาลควรเดินหน้าสร้างเตาปฏิกรณ์อีก 14 แห่งให้เสร็จสิ้นภายในปี 2030
กำลังโหลดความคิดเห็น