เอเอฟพี - ฟิเดล คาสโตร อดีตผู้นำคิวบาประณามปฏิบัติทางทหารของนานาชาติในลิเบียว่า “สงครามฟาสซิสต์” หนุน “กัดดาฟี” สู้จนลมหายใจสุดท้าย ท่ามกลางปฏิบัติการโจมตีทางอากาศระลอกใหม่ที่เฉียดใกล้บ้านพักของผู้นำรายนี้เมื่อช่วงค่ำวันอังคาร (29) ขณะที่สหรัฐฯ อ่วม เผยสูญเงินในภารกิจกำหนดเขตห้ามบินไปแล้วกว่า 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (16,730 ล้านบาท)
คาสโตร ระบุในบทความที่เขียนลงในหนังสือพิมพ์ของคิวบาว่า หากกัดดาฟีตัดสินใจสู้จนลมหายใจสุดท้ายตามที่เคยให้สัญญากับชาวลิเบีย ที่ต้องเจอการโจมตีด้วยระเบิดครั้งเลวร้ายที่สุดที่ประเทศหนึ่งเคยเจอมา มันจะเป็นคำสาปอัปยศต่อนาโตและแผนการอาชญากรรมของพวกเขา
ในบทความเรื่อง “สงครามฟาสซิสต์ของนาโต” อดีตผู้นำวัย 84 ปีรายนี้ซึ่งเป็นคู่อริตลอดกาลของสหรัฐฯ ยังเปรียบเทียบปฏิบัติการทิ้งระเบิดใส่ลิเบียกับการโจมตีสเปนของนาซีในปี 1936 “ตอนนี้อาชญากรนาโตกำลังบอกเล่าเรื่องราวอันสวยงามกับคุณ เกี่ยวกับการทิ้งระเบิดเพื่อมนุษยธรรม” คาสโตรกล่าวประชดประชัน
ความคิดเห็นของ คาสโตร มีขึ้นตามหลังเสียงประณามจากโฆษกรัฐบาลลิเบียที่อ้างว่าปฏิบัติกำหนดเขตห้ามบินของชาติตะวันตกได้คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์เป็นจำนวนมากนับตั้งแต่เริ่มลงมือเมื่อวันเสาร์ (19) ทั้งนี้ล่าสุดในช่วงค่ำวันอังคาร (29) ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีระบุว่าได้ยิงเสียงระเบิดดังสนั่น 2 ครั้งใกล้กับบ้านพักของกัดดาฟี ในกรุงตริโปลีและอีกหลายครั้งบริเวณเป้าหมายทางทหารในเขตทาจูรา แถบชานเมือง
ระเบิดลูกแรกดังขึ้น ณ เวลาประมาณ 16.30 จีเอ็มที (ตรงกับเมืองไทย 23.30 น.) จากนั้นไม่ถึง 3 นาที เสียงของระเบิดลูกสองก็ดังขึ้นในเขตบับ อัล-อาซิซเยาะห์ และไม่นานเสียงไซเรนก็ดังกึกก้องไปทั่ว ในปฏิบัติการโจมตีที่ก่อนหน้านี้มีผู้พบเห็นเครื่องบินของชาติพันธมิตรตะวันตกบินเหนือท้องฟ้าของเมืองหลวงในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง มีรายงานว่าเขตทาจูรา ย่านชานเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของค่ายทหารหลายค่ายและตกเป็นเป้าโจมตีทางอากาศตลอดคืนที่ผ่านมา ก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวอีก 7 ครั้ง โดยชาวบ้านรายหนึ่งบอกว่าเห็นเครื่องบินรบหลายลำยิงขีปนาวุธเข้าใส่ฐานเรดาร์แห่งหนึ่ง ขณะที่อีกรายงานข่าวหนึ่งระบุว่าเห็นไฟลุกและกลุ่มควันพวยพุ่งออกจากฐานดังกล่าว
อีกด้านหนึ่งทางเพตากอนออกมาเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (29) ว่าปฏิบัติการโจมตีทางทหารของอเมริกาในลิเบีย ใช้จ่ายงบประมาณไปแล้วกว่า 550 ล้านดอลลาร์ และดูเหมือนจะเพิ่มอีก 40 ล้านดอลลาร์ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 19 ถึง 28 มีนาคม กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หมดเงินร้อยละ 60 ของต้นทุนเหล่านั้นไปกับสรรพาวุธต่างๆทั้งขีปนาวุธและระเบิด ส่วนที่เหลือเป็นเงินเบี้ยเลี้ยงทหารและค่าใช้จ่ายอื่นๆอันประกอบด้วยค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินและเรือรบของสหรัฐฯ
พลเรือเอก เจมส์ สตาฟริดิส บัญชาการสูงสุดกองกำลังนาโต บอกกับสภาคองเกรสว่าทหารสหรัฐฯ ยิงจรวดร่อนโทมาฮอว์ก 192 ลูกจากทั้งหมด 199 ลูกเข้าใส่ระบบป้องกันทางอากาศและศูนย์บัญชาการต่างๆของลิเบีย โดยโทมาฮอว์กแต่ละลูกมีมูลค่าราว 1.5 ล้านดอลลาร์ ทำให้ค่าใช้จ่ายรวมของอาวุธราคาแพงนี้เพียงอย่างเดียวก็ปาเข้าไปเกือบ 300 ดอลลาร์แล้ว
นอกจากนี้ ในช่วงเวลาเดียวกัน สหรัฐฯ ยังยิงอาวุธนำวิถีด้วยเลเซอร์ออกไป 455 ลูก จากทั้งหมด 602 ลูกที่ทางกองกำลังพันธมิตรตะวันตกยิงโจมตีลิเบีย
“ค่าใช้จ่ายในอนาคตยังไม่แน่นอน” โฆษกหญิงของเพนตากอนกล่าว อย่างไรก็ตามเธอคาดหมายว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อาจต้องใช้งบประมาณอีกราว 40 ดอลลาร์ในช่วง 3 สัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่นาโตเตรียมรับมอบภารกิจจากสหรัฐฯ อย่างสมบูรณ์ในวันพฤหัสบดี (31) ซึ่งสหรัฐฯ จะค่อยๆ ลดบทบาทของพวกเขาลง