เอเอฟพี - ซาอุดีอาระเบียส่งกองกำลังป้องกันคาบสมุทรกว่า 1,000 นาย เข้าไปยังบาห์เรน วานนี้ (13) เพื่อควบคุมการประท้วงขับไล่รัฐบาลที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 เดือน เจ้าหน้าที่ซาอุฯเผยวันนี้ (14)
เจ้าหน้าที่ซาอุฯซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ ระบุว่า การส่งทหารเข้าแทรกแซง “เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลบาห์เรนพยายามขอเจรจากับฝ่ายค้านหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง” พร้อมอธิบายว่า ตามระเบียบของสภาความร่วมมือแห่งอ่าวเปอร์เซีย (จีซีซี) “กองกำลังรัฐอ่าวอาหรับใดๆ ที่เข้าไปในประเทศสมาชิก ก็ให้ถือว่าอยู่ใต้บังคับบัญชาของรัฐบาลนั้นๆ”
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลบาห์เรนยังไม่ยืนยันว่ามีการส่งทหารซาอุดีอาระเบียเข้ามาในประเทศ ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานทัพเรือที่ 5 แห่งสหรัฐฯ
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ อัลยาม ซึ่งมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับราชวงศ์อัล-คอลีฟา ระบุว่า สภาความร่วมมือแห่งอ่าวเปอร์เซีย (จีซีซี) อาจส่งกำลังทหารเข้ามาช่วยรักษาความสงบภายในบาห์เรน
ฝ่ายพันธมิตรต่อต้านรัฐบาลประกาศว่า กองกำลังต่างชาติที่เข้ามาในบาห์เรนจะถูกถือว่าเป็นผู้บุกรุก
“เราจะถือว่า การเข้ามาของทหารหรือยานพาหนะของทหารต่างชาติ เป็นการเข้ายึดครองราชอาณาจักรบาห์เรนอย่างชัดแจ้ง และเป็นแผนการทำร้ายพลเมืองบาห์เรนซึ่งปราศจากอาวุธ”
ผู้ประท้วงเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสู่ระบอบประชาธิปไตยในบาห์เรน ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมชีอะห์ที่ถูกปกครองโดยราชวงศ์ซุนนีมานานกว่า 200 ปี
กษัตริย์บาห์เรน ทรงขอเจรจากับฝ่ายผู้ประท้วง พร้อมสัญญาว่าจะดำเนินการปฏิรูปรัฐสภาและด้านอื่นๆ แต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากฝ่ายค้านยืนกรานปฏิเสธการพูดคุยจนกว่ารัฐบาลจะลาออก
การแทรกแซงของซาอุดีอาระเบียเกิดขึ้นเพียง 2 วันหลังจากที่ โรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เดินทางเยือนกรุงมานามาเพื่อเข้าเฝ้ากษัตริย์ ฮามาด และเรียกร้องให้ทรงเร่งปฏิรูปการเมืองโดยเร็ว
เกตส์ ระบุว่า สหรัฐฯวิตกว่าอิหร่านอาจฉวยโอกาสเข้าแทรกแซงกิจการภายในของบาห์เรน หากการประท้วงยังดำเนินต่อไป