เอเอฟพี - เกิดการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและผู้ประท้วงขับไล่รัฐบาลบาห์เรนวานนี้(15) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีกหลายร้อยคน ด้านกษัตริย์ฮามาดทรงประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังจากกองกำลังป้องกันคาบสมุทรเดินทางเข้าประเทศเพียง 1 วัน
ผู้นำศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ในบาห์เรนร้องขอความช่วยเหลือจากมุสลิมและนานาชาติ พร้อมเตือนว่าผู้ประท้วงกำลังตกเป็นเป้า “สังหารหมู่”
อิหร่าน ซึ่งเป็นดินแดนมุสลิมชีอะห์และเพื่อนบ้านของรัฐอ่าวอาหรับ ออกมาประณามการแทรกแซงทางทหารว่าเป็นสิ่งที่ “รับไม่ได้”
ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้ชาวบาห์เรนใช้การเมืองแก้วิกฤตความขัดแย้ง
แพทย์โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในหมู่บ้านซิตรา ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงมานามา เปิดเผยว่า “มีผู้ถูกยิงบาดเจ็บเข้ารับการรักษาประมาณ 200 คน วันนี้ (16)”
นอกจากนี้ ยังมีประชาชนอีกราว 200 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะสูดแก๊สน้ำตา ส่วนโรงพยาบาลเองก็ถูกกลุ่มติดอาวุธและเจ้าหน้าที่ยึดไว้
แพทย์คนดังกล่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ต้องการปราบปรามชาวชีอะห์ ซึ่งเป็นหัวหอกของการประท้วงที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 เดือน
อาลี อักบาร์ ซาเลฮี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน เรียกร้องให้ บัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ออกมาตอบโต้เรื่องการสลายการชุมนุมและการส่งทหารต่างชาติเข้าไปในบาห์เรน
“ชาวบาห์เรนกำลังเรียกร้องตามสิทธิที่พวกเขามี และกระทำโดยสันติ” รามิน เมห์มันปาราส โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าว
“การใช้กำลังปราบปรามเสียงเรียกร้องโดยชอบธรรมเหล่านี้ สมควรถูกหยุดยั้ง”
บาห์เรนได้ตอบโต้อิหร่านด้วยการเรียกทูตประจำกรุงเตหะรานกลับประเทศทันที
โรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวระหว่างเยือนบาห์เรนสัปดาห์ที่แล้วว่า หากบาห์เรนไม่มีการปฏิรูปครั้งใหญ่ อิหร่านอาจฉวยโอกาสเข้าแทรกแซงสถานการณ์ได้
กลุ่มผู้ประท้วงพากันเดินขบวนไปยังสถานทูตซาอุดีอาระเบียประจำกรุงมานามาวันนี้ (16) พลางร้องตะโกนขับไล่กษัตริย์ฮามาด และสัญญาว่าจะปกป้องประเทศจากทหารผู้รุกราน ทั้งยังขอให้ชาวมุสลิมซุนนีและชีอะห์รวมใจกันเป็นหนึ่งเดียว
สถานีโทรทัศน์แห่งชาติบาห์เรนตัดสัญญาณรายการปกติเพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 3 เดือน