กระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า ตามที่การชุมนุมประท้วงในบาห์เรนได้ทวีความรุนแรงขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ตลอดจนสวัสดิภาพและความปลอดภัยของคนไทยในประเทศบาห์เรน
กระทรวงการต่างประเทศขอให้คนไทยที่จะเดินทางไปบาห์เรนให้พิจารณาในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น และขอให้ผู้ที่เดินทางไปบาห์เรนแล้วหรือพำนักอาศัยในบาห์เรนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในเขตใกล้เคียงกับพื้นที่ที่มีการชุมนุมประท้วง
ทั้งนี้ ในกรณีที่เหตุการณ์ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง กระทรวงการต่างประเทศกำหนดให้มีแผนอพยพในเบื้องต้น ดังนี้
1) ทางอากาศ โดยเครื่องบินพาณิชย์หรือการเช่าเหมาลำจากกรุงมานามาไปดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือกาตาร์ และเดินทางกลับประเทศไทยโดยสายการบินไทย
2) ทางเรือ โดยการเช่าเหมาลำเรือไปรับคนไทยที่ท่าเรือ Mina Salman หรือท่าเรือ Khalifa ทั้งนี้ การอพยพโดยทางรถยนต์ อาจไม่สะดวก เนื่องจากมีสะพานเพียงแห่งเดียวที่เชื่อมไปยังซาอุดิอาระเบีย
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูตฯ อาจจำเป็นต้องปรับแผนอพยพให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ทั้งนี้ ได้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลในบาห์เรน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน บาดเจ็บอีกกว่า 200 คน หลายคนถูกยิง และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกษัตริย์แห่งบาห์เรนประกาศกฎอัยการศึกเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อควบคุมสถานการณ์
ขณะเดียวกันมีชาวบาห์เรนหลายพันคนเดินขบวนมาที่ด้านหน้าสถานทูตของซาอุดีอาระเบียในกรุงมานามา เพื่อต่อต้านการส่งกองกำลังของคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ ซึ่งนำโดยกองทัพของซาอุดีอาระเบีย
ขอเรียนว่า เกี่ยวกับการเตรียมการให้ความช่วยเหลือคนไทยนั้น กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมานามา ติดต่อเครือข่ายและชมรม/สมาคมคนไทยในการประสานกับคนไทยทั้งหมดในบาห์เรนซึ่งมีประมาณ 3,306 คนเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เริ่มเหตุการณ์การชุมนุมประท้วง ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งเตือนคนไทยให้หลีกเลี่ยงการเข้าพื้นที่ที่มีการชุมนุม พร้อมทั้งขอให้คอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วยแล้ว
ทั้งนี้ ได้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลในบาห์เรน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน บาดเจ็บอีกกว่า 200 คน หลายคนถูกยิง และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกษัตริย์แห่งบาห์เรนประกาศกฎอัยการศึกเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อควบคุมสถานการณ์
ขณะเดียวกันมีชาวบาห์เรนหลายพันคนเดินขบวนมาที่ด้านหน้าสถานทูตของซาอุดีอาระเบียในกรุงมานามา เพื่อต่อต้านการส่งกองกำลังของคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ ซึ่งนำโดยกองทัพของซาอุดีอาระเบีย
กระทรวงการต่างประเทศขอให้คนไทยที่จะเดินทางไปบาห์เรนให้พิจารณาในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น และขอให้ผู้ที่เดินทางไปบาห์เรนแล้วหรือพำนักอาศัยในบาห์เรนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในเขตใกล้เคียงกับพื้นที่ที่มีการชุมนุมประท้วง
ทั้งนี้ ในกรณีที่เหตุการณ์ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง กระทรวงการต่างประเทศกำหนดให้มีแผนอพยพในเบื้องต้น ดังนี้
1) ทางอากาศ โดยเครื่องบินพาณิชย์หรือการเช่าเหมาลำจากกรุงมานามาไปดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือกาตาร์ และเดินทางกลับประเทศไทยโดยสายการบินไทย
2) ทางเรือ โดยการเช่าเหมาลำเรือไปรับคนไทยที่ท่าเรือ Mina Salman หรือท่าเรือ Khalifa ทั้งนี้ การอพยพโดยทางรถยนต์ อาจไม่สะดวก เนื่องจากมีสะพานเพียงแห่งเดียวที่เชื่อมไปยังซาอุดิอาระเบีย
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูตฯ อาจจำเป็นต้องปรับแผนอพยพให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ทั้งนี้ ได้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลในบาห์เรน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน บาดเจ็บอีกกว่า 200 คน หลายคนถูกยิง และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกษัตริย์แห่งบาห์เรนประกาศกฎอัยการศึกเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อควบคุมสถานการณ์
ขณะเดียวกันมีชาวบาห์เรนหลายพันคนเดินขบวนมาที่ด้านหน้าสถานทูตของซาอุดีอาระเบียในกรุงมานามา เพื่อต่อต้านการส่งกองกำลังของคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ ซึ่งนำโดยกองทัพของซาอุดีอาระเบีย
ขอเรียนว่า เกี่ยวกับการเตรียมการให้ความช่วยเหลือคนไทยนั้น กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมานามา ติดต่อเครือข่ายและชมรม/สมาคมคนไทยในการประสานกับคนไทยทั้งหมดในบาห์เรนซึ่งมีประมาณ 3,306 คนเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เริ่มเหตุการณ์การชุมนุมประท้วง ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งเตือนคนไทยให้หลีกเลี่ยงการเข้าพื้นที่ที่มีการชุมนุม พร้อมทั้งขอให้คอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วยแล้ว
ทั้งนี้ ได้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลในบาห์เรน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน บาดเจ็บอีกกว่า 200 คน หลายคนถูกยิง และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกษัตริย์แห่งบาห์เรนประกาศกฎอัยการศึกเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อควบคุมสถานการณ์
ขณะเดียวกันมีชาวบาห์เรนหลายพันคนเดินขบวนมาที่ด้านหน้าสถานทูตของซาอุดีอาระเบียในกรุงมานามา เพื่อต่อต้านการส่งกองกำลังของคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ ซึ่งนำโดยกองทัพของซาอุดีอาระเบีย
