เอเอฟพี - ทางการญี่ปุ่นประกาศเตือนออกมาตั้งแต่วานนี้ (12) ว่า อาจเกิดการหลอมละลายของแกนกลางเตาปฏิกรณ์ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หลังจากระบบหล่อเย็น ซึ่งเป็นกลไกช่วยลดความร้อน ได้รับความเสียหายอย่างหนัก จากเหตุแผ่นดินไหว 8.9 ริกเตอร์เมื่อวันศุกร์ (11) ก่อความวิตกว่า อาจมีการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสี จนนำมาซึ่งการอพยพประชาชนกว่าแสนคนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยในรัศมี 20 กิโลเมตร
ญี่ปุ่นเคยประสบอุบัติภัยนิวเคลียร์ระดับร้ายแรงจนมีผู้เสียชีวิตเพียง 2 ครั้งเท่านั้น ในประวัติศาตร์ นับตั้งแต่วิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ยูเครน ระเบิดเมื่อ 25 ปีที่แล้ว ทั้งนี้ ประเด็นการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสียังคงเป็นเรื่องร้อนอยู่ในขณะนี้
สำนักข่าวเอเอฟพีได้รวบรวมเหตุการณ์อุบัติภัยร้ายแรงด้านนิวเคลียร์ที่เคยเกิดขึ้นบนโลก ไล่เรียงตามลำดับเวลาไว้ดังนี้
- 28 มีนาคม 1979 : สหรัฐฯ สั่งอพยพประชาชนราว 140,000 คน ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย หลังเกิดการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสีในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทรีไมล์ไอส์แลนด์ รัฐเพนซิลเวเนีย สาเหตุอุบัติภัยครั้งนั้นเกิดจากแกนเตาปฏิกรณ์ถูกหลอมละลาย ทำให้เกิดการปนเปื้อนรังสี แต่โชคดีที่สารกัมมันตภาพรังสีฟุ้งกระะจายเฉพาะพื้นที่ภายในโรงงานเท่านั้น ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ความร้ายแรงของเหตุการ์ดังกล่าวอยู่ในระดับ 5 จาก 7 อันดับความร้ายแรงทางนิวเคลียร์ ของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ ไอเออีเอ
- สิงหาคม 1979 : เกิดการรั่วไหลของยูเรเนียมในโรงงานนิวเคลียร์ลับ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองเออร์วิน รัฐเทนเนสซี สหรัฐฯ มีพลเรือนปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีไปกว่า 1,000 คน
- มกราคม-มีนาคม 1981 : โรงไฟฟ้านิวเคลียร์สึรุกะของญี่ปุ่นเกิดเหตุรั่วไหลของรังสี 4 ครั้งติดต่อกัน ข้อมูลจากรัฐบาลกรุงโตเกียวในขณะนั้นระบุ ว่า มีผู้ปนเปื้อนสารพิษ 278 คน
- 26 สิงหาคม 1986 : อุบัติภัยนิวเคลียร์ครั้งร้ายแรงที่สุดของโลกอุบัติขึ้น เมื่อเตาปฏิกรณ์หมายเลข 4 ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลระเบิด หลังการทดลองผิดพลาด มีผู้ปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีขั้นร้ายแรงราว 200 คน ในจำนวนนี้มี 32 คนเสียชีวิตภายใน 3 เดือน เรื่องราวถูกเปิดเผยในเวลาต่อมา หลังมีกลุ่มเมฆกัมมันตรังสีขนาดใหญ่ลอยอยู่เหนือน่านฟ้าแถบยุโรปเหนือ
หลังเกิดเหตุ มีการบันทึกได้ว่า เกิดฝุ่นรังสีนิวเคลียร์ (fall-out) ปริมาณมากกว่า การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ถล่มฮิโรชิมาเมื่อปี 1945 ผู้คนนับแสนต้องอพยพหนีตาย จากพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศระบุว่า เป็นอุบัติภัยนิวเคลียร์ครั้งนี้อยู่ในระดับ 7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด
- เมษายน 1993 : โรงงานแปรสภาพเชื้อเพลิงลับใน เขตตอมสค์-7 ทางตะวันตกของไซบีเรียได้ปล่อยกลุ่มก๊าซกัมมันตภาพรังสี ซึ่งประกอบไปด้วยยูเรเนียม-235 พลูโตเนียม-237 และวัสดุฟิสไซล์ หรือวัสดุธาตุนิวเคลียร์ออกมา ทว่า ไม่มีการเปิดเผยถึงจำนวนผู้บาดเจ็บ ล้มตาย
- พฤศจิกายน 1995 : มีการรายงานเหตุปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีขั้นร้ายแรงในเมืองเชอร์โนบิลอีกครั้ง ระหว่างการเคลื่อนย้ายเชื้อเพลิงของเตาปฏิกรณ์ตัวหนึ่ง แม้มีความพยายามปกปิดเรื่องดังกล่าว แต่ในที่สุดก็ข่าวก็แดงออกมา
- 11 มีนาคม 1997 : การทดลองในโรงงานนิวเคลียร์ เมืองโทไกมูระ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโตเกียว ต้องหยุดชะงัดชั่วคราว เมื่อเกิดเหตุระเบิด และเพลิงไหม้ ซึ่งมีผู้เคราะห์ร้ายปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสี 37 คน
- 30 กันยายน 1999 : มีผู้เสียชีวิต 2 คนจากอุบัติเหตุในโรงงานผลิตยูเรเนียม เมืองโทไกมูระ ญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าร้ายแรงที่สุดตั้งแต่อุบัติภัยเชอร์โนบิล สาเหตุครั้งนี้เกิดจากเจ้าหน้าที่เติมยูเรเนียมลงในถังตกตะกอนมากเกินไป จากความมักง่าย เพื่อต้องการประหยัดเวลา
ทั้งนี มีการเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า มีผู้ปนเปื้อนสารพิษมากกว่า 600 คน รัฐบาลสั่งให้ประชาชนอีกกว่า 320,000 คนห้ามออกจากบ้านมากกว่า 1 วัน เจ้าหน้าที่ 2 คน ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาเสียชีวิตอย่างน่าอเนจอนาถที่โรงพยาบาลในอีก 3 เดือน และ 6 เดือนให้หลัง
- 9 สิงหาคม 2004 : คนงาน 4 คนเสียชีวิต และอีก 7 คนถูกเพลิงไหม้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากการรั่วไหลไอน้ำที่ไร้สารกัมมันตภาพรังสี ในโรงงานนิวเคลียร์มิฮามะ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว 350 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หนึ่งในสามตัวของโรงงานหยุดทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่อสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น ก่อนที่ความร้อนสูงจะรั่วไหลจนอาจทำให้แกนกลางหลอมละลาย อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นภัยนิวเคลียร์ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดของญี่ปุ่น