อุบลราชธานี-ชาวบ้าน อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี เดินรณรงค์ไม่เอาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เกรงผลกระทบจากการแย่งน้ำใช้ทำเกษตรกรรม รวมทั้งเกรงปัญหารังสีนิวเคลียร์ หากเกิดการรั่วไหลเหมือนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ประเทศยูเครน เมื่อ 25 ปีก่อน และโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว
วันนี้ (9 มี.ค.) ชาวบ้านกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ประมาณ 100 คน เดินรณรงค์รอบตัวอำเภอ พร้อมแจกเอกสารชี้แจงถึงมหัตภัยร้ายของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งรัฐบาลไทยได้บรรจุไว้ในแผนพัฒนากำลังสำรองไฟฟ้าของประเทศ ระหว่างปี 2554-2573 โดยจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศจำนวน 5 โรง
ประกอบด้วย ที่จังหวัดนครสวรรค์ ตราด ชุมพร สุราษฎร์ธานี และ อุบลราชธานี ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก 5,000 เมกะวัตต์ และที่ผ่านมา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีการสำรวจจุดที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในจังหวัดอุบลราชธานี โดยกำหนดพื้นที่สร้างในตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร
ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบที่ตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในอนาคต ออกมารณรงค์ให้ความรู้ถึงพิษภัยการมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูล ทั้งด้านดีและด้านเสียในการมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศไทย รวมทั้งรำลึกในโอกาสครบรอบ 1 ปี การระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ที่ประเทศญี่ปุ่น
ชาวบ้านที่ออกมาเดินรณรงค์ ระบุว่า เกรงผลกระทบจากการดำเนินชีวิตทั้งการแย่งน้ำใช้เพาะปลูกพืชผล และรังสีของนิวเคลียร์ หากไม่สามารถควบคุมเหมือนการระเบิดของโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล ในประเทศยูเครน เมื่อ 25 ปีก่อน ซึ่งรังสีแผ่ไปทั่วทวีปยุโรป และการระเบิดของโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะของประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.2554 ซึ่งทั้งสองประเทศนี้ มีเทคโนโลยีสูงกว่าไทย แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมไม่ให้โรงไฟฟ้าระเบิดได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อขบวนรณรงค์เดินทางมาถึงที่ว่าการอำเภอ นายสีหราช สุวรรณกูฏ ผอ.โรงเรียนบ้านหัวสะพาน ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ใช้ก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นตัวแทนชาวบ้านยื่นหนังสือถึงรัฐบาลให้เปิดเผยข้อมูลการเข้ามาสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ อ.สิรินธร ผ่าน ว่าที่ ร.ต.ไพฑูรย์ จงจินากูล ปลัดอำเภอ เพื่อส่งต่อหนังสือดังกล่าวไปตามความต้องการของชาวบ้านที่ออกมาเดินรณรงค์ครั้งนี้