เอเอฟพี - ทางการเยอรมนีในวันอังคาร(4) สั่งฆ่าหมูหลายร้อยตัว หลังพบสารไดออกซินระดับสูงในเนื้อสุกรเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปิดฟาร์มหลายพันแห่งเพื่อตรวจสอบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
"ผลการตรวจสอบเนื้อหมูพบว่ามีสารไดออกซืนในระดับสูง" เกิร์ท ฮาห์น โฆษกของกระทรวงกสิกรรมในรัฐโลเวอร์แซกโซนี ทางตอนเหนือของเยอรมนี บอกกับเอเอฟพี "เราจำเป็นต้องฆ่าสัตว์เหล่านี้และจากนั้นก็นำไปเผาทำลาย"
ผลการตรวจสอบก่อนหน้านี้พบไดออกซินสารก่อให้เกิดมะเร็ง สูงเกินกว่ากำหนดในไข่และไก่เท่านั้น โดยทางการได้ทำลายไข่ไปแล้วราว 100,000 ฟองและในช่วงค่ำเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว(6) มีคำสั่งปิดฟาร์ม 4,700 แห่งจากทั้งหมด 375,000 แห่งทั่วประเทศ ระหว่างรอผลการตรวจสอบที่ชัดเจน
บริษัทฮาร์ลส์ อุนด์ เยินซ์ช ในแคว้นชเลสวิก โฮลชไตน์ ถูกกล่าวหาว่าจัดส่งกรดไขมันปนเปื้อนเกือบ 3,000 ตันให้กับผู้ผลิตอาหารสัตว์ราว 25 แห่ง โดยกรดไขมันส่วนใหญ่ ประมาณ 2,500 ตันถูกส่งในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ให้แก่ผู้ผลิตในโลเวอร์ แซกโซนี
เกาหลีใต้ระงับนำเข้าเนื้อหมูจากเยอรมนี ขณะที่สโลวาเกีย มีคำสั่งหยุดขายไข่และไก่จากเยอรมนีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาตรการที่ถูกตำหนิจากคณะกรรมาธิการยุโรปว่าไม่สมเหตุสมผล
เวลานี้ฟาร์มส่วนใหญ่ในจำนวน 4,700 แห่งที่ถูกสั่งปิดได้กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง และทางการหวังว่าที่เหลือจะกลับมาเปิดทำการเร็วๆนี้ ขณะที่จนถึงวันจันทร์(10) มีฟาร์ม 558 แห่งที่ยังต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับที่เข้มงวด
แม้รัฐบาลเยอรมนียืนยันมาตลอดว่าปัญหาดังกล่าวไม่เสี่ยงต่อปัญหาสาธารณสุขของประชาชนและเชื่อว่าไม่มีอาหารสัตว์ต้องสงสัยปนเปื้อนถูกส่งออก
อย่างไรก็ตามเมื่อวันจันทร์(10) ทางคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่าข้อเท็จจริงคือมีการส่งออกอาหารสัตว์ปนเปื้อนบางส่วนไปยังฝรั่งเศสและเดนมาร์ก ขณะเดียวกันไข่ราว 136,000 ฟอง หรือสินค้าเกษตรร่วม 9 ตัน จากฟาร์มที่มีการปนเปื้อนก็ได้ถูกส่งออกไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์แล้ว
รัฐบาลเยอรมนีประกาศจัดการขั้นหนักหน่วงกับผู้อยู่เบื้องหลังความตื่นตระหนกนี้และบอกว่ากำลังปรับแก้กฎระเบียบให้เข้มงวดขึ้นเพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอย ขณะที่อัยการกำลังสอบสวนหาสาเหตุของการปนเปื้อน โดยเฉพาะบริษัทสารเติมแต่งอาหารสัตว์ " บริษัทฮาร์ลส์ อุนด์ เยินซ์ช" ว่าส่งกรดไขมันที่ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตกระดาษไปให้แก่ผู้ผลิตอาหารสัตว์หรือไม่