เอเอฟพี - เหตุอื้อฉาวเกี่ยวกับอาหารในเยอรมนีเลวร้ายลงอีกในวันนี้ (7) ขณะที่เจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่นได้สั่งปิดฟาร์มเลี้ยงสัตว์กว่า 4,700 แห่ง หลังตรวจสอบพบว่าอาหารสัตว์ปนเปื้อนสารไดอ็อกซิน ที่ก่อให้เกิดมะเร็ง
ความกังวลยิ่งเพิ่มมากขึ้นว่าการปนเปื้อนสารพิษอาจเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารเร็วกว่าที่คาด เมื่อการทดสอบไขมันสัตว์ของบริษัท ที่เป็นศูนย์กลางความอื้อฉาวครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าอาหารเหล่านั้นปนเปื้อนมาตั้งแต่เดือนมีนาคมของปีที่แล้ว
กระทรวงเกษตรของเมืองเบียร์แถลงว่า ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ 4,709 แห่งถูกปิดแล้วว โดยฟาร์มส่วนใหญ่ ราว 4,468 แห่งอยู่ในภูมิภาคโลเวอร์ แซกซอนนี่ ทางตะวันตกเเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 4
ทางกระทรวงยังระบุว่า ฟาร์มเหล่านั้นจะถูกปิดไปจนกว่าจะมีการตรวจสอบว่าปราศจากการปนเปื้อนสารไดอ็อกซิน ซึ่งเป็นสารพิษที่สามารถก่อให้เกิดมะเร็ง และจะไม่ได้รับอนุญาตให้มีการขนส่งใดๆ
บริษัทฮาร์ลส์ อุนด์ เยินซ์ช ในแคว้นชเลสวิก โฮลชไตน์ ถูกกล่าวหาว่าจัดส่งกรดไขมันปนเปื้อนเกือบ 3,000 ตันให้กับผู้ผลิตอาหารสัตว์ราว 25 แห่ง โดยกรดไขมันส่วนใหญ่ ประมาณ 2,500 ตันถูกส่งในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ให้แก่ผู้ผลิตในโลเวอร์ แซกโซนี
การทดสอบตัวอย่างจากฮาร์ลส์ อุนด์ เยินซ์ชพบว่า ในจำนวน 9 จาก 20 ตัวอย่างมีระดับไดอ็อกซินสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้มาก กระทรวงเกษตรของชเลสวิก โฮลชไตน์ จึงต้องดำเนินการเพื่อป้องกันความปลอดภัยไว้ก่อน
เหตุอื้อฉาวนี้ได้แพร่ออกนอกชายแดนเยอรมนีแล้ว โดยเจ้าหน้าที่เยอรมันได้แจ้งคณะกรรมการสหภาพยุโรป และประเทศคู่ค้าว่า ไข่ 136,000 ฟอง หรือสินค้าเกษตรร่วม 9 ตัน จากฟาร์มที่มีการปนเปื้อนได้ถูกส่งออกไปให้ประเทศเนเธอร์แลนด์แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น อียูก็ได้เตือนว่า ไข่จากฟาร์มที่อาจมีการปนเปื้อนไดอ็อกซินได้ถูกส่งเข้าไปในอังกฤษแล้ว เพื่อใช้ในเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสำหรับคน ส่วนจะเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทใดนั้น ยังไม่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม สำนักงานมาตรฐานอาหารของอังกฤษ หรือเอฟเอสเอ ได้แถลงยืนยันในวันพฤหัสบดี (6) ว่า ไข่ปนเปื้นเหล่านั้นไม่น่าจะเป็นอันตรายแต่อย่างใด