xs
xsm
sm
md
lg

“สื่อนอก” ชี้ “เสื้อแดง” คนลดฮวบใกล้ม้วนเสื่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สื่อมวลชนต่างประเทศระบุจำนวนผู้ชุมนุมลดลงอย่างมาก เนื่องจากบางส่วนทยอยกลับบ้านไปแล้ว
เอเจนซี/ASTVผู้จัดการรายวัน – สื่อมวลชนต่างประเทศรายงานข่าว “มุก” เทเลือดของกลุ่ม “เสื้อแดง” พร้อมกับชี้ว่า ผู้ที่เข้าร่วมการประท้วงครั้งนี้ มีจำนวนมากได้เดินทางกลับบ้านในต่างจังหวัดแล้ว ส่วนพวกที่ยังอยู่หลายๆ คนไม่มั่นใจว่าจะได้ชัยชนะ และบางคนก็หงุดหงิดคิดว่าต้องใช้ความรุนแรงจึงจะขับไล่รัฐบาล “อภิสิทธิ์” ได้

สื่อมวลชนต่างประเทศจำนวนมาก ยังคงติดตามรายงานข่าวการชุมนุมประท้วงของกลุ่ม “เสื้อแดง” และพากันเสนอข่าวตลอดจนภาพเหตุการณ์การเทเลือดเมื่อวานนี้ (17) โดยหลายๆ รายเสนอข่าวแบบอารมณ์ขันเล็กๆ ว่า มีการนองเลือดแต่ไม่มีใครบาดเจ็บล้มตาย

พร้อมกันนั้น สื่อจำนวนมากก็ชี้ด้วยว่า ผู้คนที่เข้าร่วมการชุมนุม ซึ่งเคยอยู่ในระดับสูงสุดกว่า 1 แสนคน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พอถึงวานนี้ได้หดหายไปจำนวนมาก เอบีซีนิวส์ของออสเตรเลีย บอกว่า จำนวนคนได้ลดลงไปราวสองในสาม ส่วนหนังสือพิมพ์ซิดนีย์มอร์นิ่งเฮรัลด์ ของออสเตรเลียเช่นกัน กล่าวว่าเหลืออยู่เพียงหนึ่งในสี่

ทางด้าน สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า มีร่องรอยของความอ่อนล้าของผู้ชุมนุมปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน บางคนบ่นเรื่องที่การชุมนุมไม่บรรลุผลโดยเร็ว และบางคนก็ต้องคอยหลบแสงแดดที่แผดจ้าในกรุงเทพฯ ระยะนี้ นอกจากนั้น ผู้ชุมนุมบางส่วนก็ได้เดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัดไปแล้วด้วย

รอยเตอร์ ซึ่งระบุว่า ตอนที่มีผู้ร่วมชุมนุมสูงที่สุด คือ ในคืนวันอาทิตย์ (14) มีจำนวนราว 150,000 คน ได้อ้างประมาณการของทางตำรวจว่าเวลานี้เหลืออยู่ราว 30,000 คนเท่านั้น พร้อมกันนั้นสำนักข่าวแห่งนี้ยังได้อ้างคำพูดของ นายจรัล ดิษฐาภิชัย แกนนำของการชุมนุมคนหนึ่ง ที่กล่าวยอมรับว่า “ผู้ชุมนุมต้องอยู่กันบนถนนมาตั้งแต่วันเสาร์ พวกเขาลำบากมาก แต่เราจะเดินหน้าต่อไป เพราะนี่เป็นเรื่องผลประโยชน์ระยะยาวของประเทศไทย”

หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ ก็ชี้ว่า ผู้ประท้วงบางคนบอกว่าเงินของพวกเขากำลังหมด เป็นต้นว่า นงลักษณ์ เจียเงินสุด วัย 50 ปี กล่าวว่า เธอกำลังจะกลับไปทำงานเป็นช่างเจียระไนอัญมณีที่จังหวัดจันทบุรี เพราะครอบครัวของเธออยู่ไม่ได้ ถ้าเธอไม่มีรายได้

สำหรับคนที่ยังชุมนุมอยู่ รอยเตอร์ กล่าวว่า มีบางคนแสดงความหงุดหงิดผิดหวังที่การประท้วงดูจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบอะไร และคิดถึงการต่อสู้ที่รุนแรงยิ่งขึ้น สำนักข่าวแห่งนี้ได้อ้างคำพูดของ นายชาญชัย เที่ยงสมบูรณ์ ชาวนาจากจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่กล่าวว่า “เราเทเลือดกันไปแล้ว คราวนี้จะทำอะไรต่อล่ะ ผมก็ไม่รู้ว่านี่จะไปยังไงต่อไป ผมมีศรัทธาใน “เสื้อแดง” แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่า เราจะได้อะไรขึ้นมาถ้าไม่เขย่าสิ่งต่างๆ ให้มากขึ้นอีกสักนิด”

รอยเตอร์ ยังได้อ้างคำพูดของ นายมนัส เต็งมณี จากจังหวัดลำปางที่บอกว่า “ผมอยากให้รุกคืบกว่านี้และทำอะไรที่ดุดัน” และกล่าวด้วยว่า “ผมว่าถ้าไม่เลือดสาดจริงๆ ก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอก ยังไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อประชาชนในประเทศไทยที่ไม่มีการนองเลือด” เขากล่าวแต่ก็ยืนยันว่าจะทำตามข้อเรียกร้องของแกนนำการชุมนุมที่ต้องการให้ชุมนุมโดยสันติ

สื่อต่างประเทศหลายแห่งยังได้สัมภาษณ์ความคิดเห็นของพวกนักวิเคราะห์ ว่า สถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป คริสเตียนไซแอนซ์มอนิเตอร์ สื่อของสหรัฐฯ ระบุว่า นักการทูตชาติตะวันตกผู้หนึ่งให้ทัศนะว่า “มันกำลังจะจบลงแล้ว” และ “พวกเขา (ผู้นำการชุมนุม) จะต้องตัดสินใจว่า จะให้มันจบลงในวิธีที่สบายๆ หรือในวิธีที่หนักหน่วงสาหัส”

เช่นเดียวกับรอยเตอร์ ซึ่งระบุว่า พวกนักวิเคราะห์ต่างเห็นว่า การที่จำนวนผู้เข้าร่วมลดลง อาจบังคับให้พวกผู้นำต้องเริ่มมองหาวิธีที่จะยุติการชุมนุม

“มันเป็นเรื่องที่จัดการได้ยากสำหรับพวกเขา (พวกผู้นำการชุมนุม) พวกเขาจะต้องทำมัน (ยุติการชุมนุม) ในลักษณะที่ทั้งไม่ทำให้พวกผู้นำเสียหน้า และไม่ให้ผู้ชุมนุมผิดหวังมากนัก เพราะจะกลายเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของพวกเขาในหมู่ผู้สนับสนุนลง” รอยเตอร์ อ้างความเห็นของ นายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง

สำนักข่าวรอยเตอร์ ยังรายงานประเด็นที่ว่า การชุมนุมไม่มีผลกระทบทางลบต่อตลาดการเงิน โดยที่เมื่อไม่ได้มีความรุนแรง ตลอดจนมีความเห็นกันมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งได้รับการหนุนหลังจากฝ่ายทหาร จะสามารถผ่านพ้นวิกฤตคราวนี้ จึงได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยทำให้ตลาดหุ้นไทยเพิ่มสูงขึ้น 2.4% วานนี้ สู่ระดับสูงที่สุดในรอบ 2 เดือน

รอยเตอร์ยังอ้างคำพูดของ นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่กล่าวว่า “ดูเหมือนรัฐบาลจะรับมือกับสถานการณ์โดยรวมได้ ถ้าหากผ่านสัปดาห์นี้ไปได้ ก็น่าจะกลับสู่ภาวะปกติ และเงินทุนจะเริ่มไหลเข้ามาอีก”

“ถึงแม้ต่างชาติจะเข้ามาซื้อหุ้นในปริมาณน้อยลง เพราะเรื่องการเมือง แต่ก็ไม่ได้รุนแรงถึงขนาดมีการเทขาย นอกจากว่าจะควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ หรือมีการยิงประชาชนเท่านั้น” นางภัทรียา กล่าวและเสริมว่า “โดยพื้นฐานแล้ว ประเทศไทยก็ไม่ได้ดูแย่อะไร”

ความเห็นของเธอยังได้รับการหนุนเสริมจาก มอร์แกน สแตนเลย์ วาณิชธนกิจชั้นนำของสหรัฐฯ ซึ่งได้เพิ่มระดับให้แก่ความน่าลงทุนในตลาดหุ้นของไทย ทั้งนี้ ปรากฏในจดหมายข่าวที่ส่งถึงลูกค้าลงวันที่ 12 มีนาคม แต่เพิ่งนำออกเผยแพร่ต่อสื่อในสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์ที่ยังไม่สงบในกรุงเทพฯ ทำให้ นายเคิร์ต เอ็ม.แคมป์เบลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชียและแปซิฟิก ยกเลิกการเดินทางเยือนไทยวานนี้ เนื่องจาก “รัฐบาลสหรัฐฯไม่ประสงค์ที่จะเพิ่มภาระและความไม่สะดวกแก่ฝ่ายไทย” ทั้งนี้ตามคำแถลงของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯในกรุงเทพฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น