เอเจนซี/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขยับขึ้นเกือบ 2 ดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดในรอบหนึ่งเดือนเมื่อวันพฤหัสบดี(18) หลังได้แรงหนุนจากรายงานคลังเชื้อเพลิงสำรองของสหรัฐฯและความกังวลต่อสถานการณ์อิหร่าน ขณะที่วอลล์สตรีท ปิดบวก 3 วันติดตามข้อมูลทางเศรษฐกิจ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.73 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน เมษายน เพิ่มขึ้น 1.51 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากรายงานคลังพลังงานสำรองของสหรัฐฯช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พบว่าสต๊อกน้ำมันกลั่น ลดลงถึง 2.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายถึงสองเท่า
อย่างไรก็ตาม ในรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (อีไอเอ) ระบุว่าในส่วนคลังน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินสำรองนั้น กลับเพิ่มขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรลและ 1.7 ล้านบาร์เรลตามลำดับ เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้เช่นกัน
ทั้งนี้ ตลาดยังจับตากับข่าวหน่วยงานเฝ้าระวังนิวเคลียร์แห่งสหประชาชาติ กังวลว่าอิหร่าน ชาติผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ อาจกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ทิ้งน้ำหนักสนับสนุนข้อสงสัยของชาติตะวันตกและก่อความกังวลในความเป็นไปได้ที่อาจเกิดความยุ่งเหยิงด้านอุปทาน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี(18) ปิดในแดนบวก 3 วันติดต่อกัน แม้มีข้อมูลทางเศรษฐกิจอันผสมปนเปและรายงานผลกระกอบการอันน่าผิดหวังของบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ วอล-มาร์ต ก็ตาม
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 82.98 จุด (0.80 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,392.22 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 15.42 จุด (0.69 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,241.71 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 7.04 จุด (0.64 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,106.55 จุด