เอเจนซี - ราคาน้ำมันดิ่งกว่า 9 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวันจันทร์ (1 ธ.ค.) แตะระดับ 49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดตั้งแต่พฤษภาคม ปี 2005 หลังจากโอเปกหน่วงการตัดสินใจลดกำลังผลิตเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ชาติผู้ผลิตน้ำมันชะลอตัดสินใจลดกำลังผลิตลงจนกระทั่งช่วงปลายเดือนนี้ ขณะที่ ซาอุดีอาระเบีย และชาติสมาชิกอื่นๆ เรียกร้องให้ชาติสมาชิกยินยอมปฏิบัติตามข้อตกลงลดกำลังผลิตที่เห็นพ้องกันเมื่อเดือนกันยายน เพื่อฉุดราคาน้ำมันที่ร่วงลงต่อเนื่องหลังเคยก้าวไปทำสถิติ 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในเดือนกรกฎาคม
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตในตลาดนิวยอร์ก งวดส่งมอบเดือนมกราคม ร่วงลง 5.15 ถือว่าเป็นราคาปิดต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2005 ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ในตลาดลอนดอน ร่วงลง 5.52 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เตือนเมื่อวันจันทร์ ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯยังอยู่ในภาวะตึงเครียดเป็นอย่างมาก และบอกว่า ผู้วางแผนนโยบายควรพร้อมสำหรับใช้มาตรการที่เด็ดขาดเพื่อปกป้องงานและการเติบโต
“การประชุมโอเปกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า มีปัจจัยไม่มากนักที่สามารถหยุดยั้งการตกต่ำของราคาน้ำมันได้ นอกจากนี้ ข้อมูลการผลิตของสหรัฐฯล่าสุดส่งผลกระทบทางจิตวิทยาของตลาด” ฟิล ฟลีนน์ นักวิเคราะห์จากอลารอนเทรดดิ่ง ระบุ “ความอ่อนแอทางภาคการผลิตบ่งบอกล่วงหน้าถึงภาพอุปสงค์น้ำมันที่เลวร้าย”
นายอับดุลลา ซาเลม เอล บาดรี เลขาธิการทั่วไปของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปก บอกว่า เตรียมลดกำลังผลิตเพิ่มเติมในการประชุมครั้งหน้าที่แอลจีเรีย วันที่ 17 ธันวาคม
