เอเจนซี - ราคาน้ำมันผันผวนก่อนร่วงลง 4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวันอังคาร (10) หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯคาดคะเน ว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจทำให้ปริมาณบริโภคน้ำมันทั่วโลกปีนี้ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1980
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตในตลาดนิวยอร์ก งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.64 ดอลลร์ ปิดที่ 42.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ในตลาดลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.89 ดอลลาร์ ปิดที่ 41.53 ดอลลาร์
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (อีไอเอ) คาดหมายว่า อุปสงค์น้ำมันโลกจะลดลงราว 50,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2008 และจะลดลง 450,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2009 -- นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1983 ที่อุปสงค์น้ำมันโลกปีต่อปีลดลง
การคาดหมายที่ต่ำลงมีขึ้นขณะที่ทางอีไอเอเองก็ได้ปรับลดอัตราการเติบโตจีดีพีโลกในปี 2009 ลดลงเหลือ 0.5 เปอร์เซ็นต์ จากที่คาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้วไว้ที่ 1.8 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกันนั้นอีไอเอได้คาดคะเนอัตราการเติบโตจีดีพีโลกในปี 2008 นี้จะสิ้นสุดที่ 2.7 เปอร์เซ็นต์
ญี่ปุ่นถลำลงสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ในระหว่างไตรมาสสามของปีนี้ เช่นเดียวกับยุโรปที่มีเครื่องบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจดำดิ่งลงเรื่อยๆ ด้านแคนาดาประกาศว่าได้เข้าสู่ภาวะถดถอยเมื่อวันอังคาร (9) ขณะที่สหรัฐฯเองก็ยอมรับว่าเศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว
วิกฤตเศรษฐกิจโลกได้ฉุดราคาน้ำมันจากสถิติสูงสุดเหนือ 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนกรกฎาคม และได้เพิ่มความกังวลให้กับชาติสมาชิกกลุ่มโอเปก
นักวิเคราะห์คาดหมายว่า โอเปกจะลดกำลังผลิตลงอีกอย่างน้อย 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในการประชุมซึ่งกำลังจะมาถึงที่แอลจีเรียในวันพุธหน้า (17) หลังจากเห็นพ้องลดกำลังผลิตลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวันนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน