เอเจนซี - ราคาน้ำมันร่วงลงอีก 2.3 เปอร์เซ็นต์ หลุดไปแตะระดับต่ำกว่า 39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันอังคาร (23) หลังจากข้อมูลทางเศรษฐกิจอันมืดมน เพิ่มเติมแรงคาดหมายว่าอุปสงค์พลังงานโลกจะลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี
โอเปก ซึ่งมีมติลดกำลังผลิตน้ำมันไปแล้ว 5 เปอร์เซ็นต์ อาจเรียกประชุมฉุกเฉินอีกครั้งก่อนเดือนมีนาคม หากว่าตลาดยังคงทรุดหนักลงไปอีก หลังจากราคาน้ำมันดิ่งลงไปแล้วเกือบ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นับตั้งแต่ฤดูร้อนที่ผ่านมา นายชาคิบ เคลิล รัฐมนตรีน้ำมันแอลจีเรีย ในฐานะประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน กล่าว
“เราจะพิจารณาตลาดใหม่อีกครั้ง และตัดสินใจอย่างเหมาะสมหากว่าเราเห็นว่าราคาน้ำมันยังคงดิ่งลงแม้มีมติลดกำลังผลิต” เคลิล กล่าว
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 93 เซ็นต์ ปิดที่ 38.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากดิ่งกว่า 6 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันจันทร์(22) ขณะที่น้ำมันดิบชนิดเบรนต์ของลอนดอน ลดลง 1.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 40.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันที่ตกลงในวันอังคาร (23) มีขึ้นหลังจากข้อมูลรัฐบาลสหรัฐฯเผยให้เห็นว่าเศรษฐกิตของชาติผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ หดตัวลง 0.5 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงไตรมาส 3 ขณะที่วิกฤตสินเชื่อและวิกฤตบ้านยังคงอยู่ ขณะเดียวกันการใช้จ่ายของผู้บริโภค ลดลง 3.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1980
อีกด้านหนึ่งเศรษฐกิจของอังกฤษ ก็หดตัวลง 0.6 เปอร์เซ็นต์เช่นกันในไตรมาส 3 นับเป็นการหดตัวทางเศรษฐกิจครั้งแรกตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1990 ขณะเดียวกับข้อมูลก็เผยให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยกำลังคืบคลานเข้าสู่สเปนและนิวซีแลนด์
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (อีไอเอ) คาดหมายว่าอุปสงค์น้ำมันโลกจะลดลงในปี 2008 และ 2009 สืบเนื่องจากความยุ่งเหยิงของภาคการเงิน ซึ่งจะทำให้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1983 ที่มีการบริโภคน้ำมันลดลง
ส่วนจีน ประเทศผู้บริโภคน้ำมันอันดับ 2 ของโลก มีการบริโภคพลังงานในเดือนพฤศจิกายน ลดลง 3.2 เปอร์เซ็นต์ จากเดือนเดียวกันนี้เมื่อปีที่แล้ว นับเป็นตัวเลขที่ลดลงครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ขณะเดียวกัน ปริมาณการนำเข้าน้ำมันของจีนก็ลดลงต่ำที่สุดในปีนี้
