เอเอฟพี - อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ผู้ฉาวโฉ่ “โจเซฟ เอสตราดา” ให้สัญญาว่า จะทำสงครามเพื่อยุติการก่อความไม่สงบจากกบฏมุสลิม หากเขาได้รับเลือกตั้งให้เป็นผู้นำฟิลิปปินส์อีกครั้ง
เอสตราดา อดีตพระเอกหนังแอกชัน วัย 72 ปี กล่าวว่า เขาจะประกาศสงครามทุกรูปแบบเพื่อต่อต้านการก่อความไม่สงบและนำความสงบสุขมาให้ฟิลิปปินส์ หากเขาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งปีหน้า ระหว่างการประชุมแสดงความคิดเห็นเรื่องต่อต้านความยากจนของบรรดาผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปินส์ ที่สหประชาชาติ จัดขึ้นในวันนี้ (20)
เอสตราดา ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีแดนตากาล็อก ในปี 1998 ระหว่างเรืองอำนาจ เขาใช้นโยบายแข็งกร้าวต่อกบฏมุสลิมและคอมมิวนิสต์ และเขาประสบความสำเร็จครั้งสำคัญๆ หลายครั้ง รวมถึงการยึดฐานที่มั่นของกลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยมุสลิมโมโร (MILF) ซึ่งเป็นกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนมบนเกาะมินดาเนาได้
นอกจากนี้ กองทัพภายใต้การบัญชาการของเขายังโจมตีพวกคอมมิวนิสต์จากกองทัพประชาชนใหม่ (New People's Army) อย่างหนักอีกด้วย โดยทั้งสองกลุ่มนี้ก่อความไม่สงบในฟิลิปปินส์ มานานกว่า 40 ปีแล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปนับพันคน และทำให้นักลงทุนต่างชาติไม่กล้าเข้ามาลงทุนด้วย
กลอเรีย อาร์โรโย ซึ่งสืบทอดอำนาจประธานาธิบดีต่อจากเขา ได้เปิดการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มกบฏทั้งสอง กระทั่งบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับเอ็มไอแอลเอฟ แต่ เอสตราดา ชี้ว่า นโยบายนี้กลับยิ่งทำให้กบฏฮึกเหิมขึ้น เพราะแม้จะเจรจา และเซ็นสัญญาหยุดยิงแล้ว แต่ความรุนแรงยังคงเกิดขึ้นต่อไปอีก ทั้งระเบิด และการลักพาตัว
เอสตราดา ออกมาให้ความเห็นคราวนี้ หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว มิชชันนารี ชาวไอริช ถูกมือปืนลักพาตัวไปบนเกาะมินดาเนา นับเป็นรายล่าสุดที่ถูกลักพาตัวจำนวนมาก
ทั้งนี้ เอสตราดา ถูกปฏิวัติโค่นลงจากอำนาจในปี 2001 จากการกล่าวหาว่าคอร์รัปชัน ในปี 2007 ศาลตัดสินจำคุกเขาในข้อหารับสินบน แต่ประธานาธิบดี อาร์โรโย ประกาศนิรโทษกรรมให้แก่เขาใน 6 สัปดาห์ถัดมา จากการสำรวจ เขามีคะแนนนิยมอยู่ในอันดับสาม สำหรับในการเลือกปี 2010 ขณะที่่วุฒิสมาชิก เบนีโญ อาควิโน มีคะแนนนิยมอับดับหนึ่ง