เอเอฟพี/เอเจนซี - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่เมืองปิชีน ของอิหร่าน ที่อยู่ใกล้พรมแดนปากีสถานได้เพิ่มขึ้นเป็น 42 ราย ในจำนวนนี้เป็นนายทหารระดับนายพลของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน 7 คน ขณะที่ผู้นำอิหร่านระบุเหตุร้ายครั้งนี้มีการวางแผนจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างปากีสถาน ส่วนกองกำลังพิทักษ์ฯชี้นิ้วกล่าวโทษรัฐบาลสหรัฐฯและอังกฤษ
สำนักข่าวเมห์รของอิหร่าน รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 42 ราย จากเหตุลอบโจมตีโดยมือระเบิดพลีชีพ ระหว่างการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติกับบรรดาหัวหน้าชนเผ่าต่างๆ ที่สนามกีฬาในร่มแห่งหนึ่งกลางเมืองปิชีน ในจังหวัดซิสตัน-บาลูจิสถานของอิหร่านที่อยู่ใกล้พรมแดนปากีสถานเมื่อวันอาทิตย์ (18) โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตนี้เป็นนายพลของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน 7 นาย และมีแนวโน้มว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้นอีกเนื่องจากมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นจำนวนมาก
ด้านสำนักข่าวฟาร์สของอิหร่าน เปิดเผยว่า พลเอก นูร์ อาลี ชูชตารี รองผู้บัญชาการกองกำลังสู้รบภาคพื้นดินของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน และพลเอกโมฮัมหมัด ซาเดห์ ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่านประจำจังหวัดซิสตัน-บาลูจิสถาน ได้เสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ พร้อมด้วยนายทหารระดับสูง และผู้นำชนเผ่าท้องถิ่นอีกหลายคน
หลังเกิดเหตุไม่นาน กลุ่มกบฏมุสลิมนิกายสุหนี่ “จุนดอลเลาะห์” ซึ่งหมายถึง “ทหารของพระผู้เป็นเจ้า” ภายใต้การนำของอับโดลมาเล็ก ริกิ ได้ออกมายืนยันว่าเหตุโจมตีครั้งนี้เป็นฝีมือของกลุ่มตน
ขณะที่ ประธานาธิบดี มะห์มุด อะห์มาดิเนจัด ผู้นำอิหร่าน ได้ออกมากล่าวโจมตีปากีสถานอย่างรุนแรง โดยระบุว่า รัฐบาลปากีสถานให้ที่พักพิงแก่สมาชิกกลุ่มกบฏจุนดอลเลาะห์ และแผนการร้ายคราวนี้ถูกวางแผนอย่างดีจากปากีสถานโดยมีเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงปากีสถานรู้เห็น พร้อมเรียกร้องให้จับกุมตัวผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีครั้งร้ายแรงที่สุดของอิหร่านนับแต่ปี 2007 โดยเร็ว
สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอของอิหร่าน รายงานว่า ผู้นำอิหร่านได้ต่อสายตรงไปหาประธานาธิบดีอาซิฟ อาลี ซาร์ดารี ของปากีสถานแล้ว โดยยืนยันว่าทั้ง2ชาติยังคงมีความสัมพันธ์อันดีฉันท์พี่น้อง แต่รัฐบาลอิหร่านไม่อาจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นคราวนี้ได้ และย้ำให้ผู้นำปากีสถานเร่งนำตัวคนร้ายมาลงโทษโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม โมฮัมหมัด ฮัสซัน อาบูโตราบี รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่งของอิหร่าน กล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภาในกรุงเตหะรานเมื่อวานนี้ (19) โดยระบุว่า สหรัฐฯและบริวารมีส่วนให้การสนับสนุนโดยตรงกับกลุ่มจุนดอลเลาะห์
ความเห็นของรองประธานสภาผู้แทนราษฎรอิหร่านผู้นี้ สอดคล้องกับพลเอกโมฮัมหมัด พักปูร์ ผู้บัญชาการกองกำลังสู้รบภาคพื้นดินของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่าน ที่ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯและอังกฤษเป็นผู้ฝึกฝน และจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ให้กับสมาชิกของกลุ่มกบฏมุสลิมนิกายสุ่หนี่ดังกล่าวซึ่งตั้งค่ายฝึกอยู่ในดินแดนของปากีสถาน
นอกจากนั้น พลเอก โมฮัมหมัด อาลี จาฟารี ซึ่งเป็นผู้บัญชาการสูงสุด ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านได้ออกมาประกาศจะตอบโต้สหรัฐฯ และอังกฤษ พร้อมระบุว่า มีหลักฐานที่บ่งชี้ถึงความเชื่อมโยงระหว่างหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ อังกฤษ และปากีสถานกับกลุ่มจุนดอลเลาะห์
ด้าน เอียน เคลลี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯออกมาแถลงที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันจันทร์ (19) ปฏิเสธว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเหตุโจมตีในอิหร่าน พร้อมกล่าวประณามการกระทำเยี่ยงผู้ก่อการร้ายที่ทำให้มีผู้บริสุทธิ์ต้องเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี ยูซาฟ ราซา จิลานีของปากีสถาน ที่ออกมาประณามการก่อเหตุโจมตีครั้งนี้ พร้อมยืนยันว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของรัฐบาลปากีสถานเข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มจุนดอลเลาะห์ตามที่ทางการอิหร่านกล่าวหาแต่อย่างใด
