เอเจนซี/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันทะยานขึ้นกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ขยับเหนือ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันพุธ(30) หลังสต๊อกเบนซินสหรัฐฯ ลดลงอย่างแรง เผยถึงอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่วอลล์สตรีทปิดลบ เหตุถูกข้อมูลตลาดแรงงานฉุด แม้จะมีตัวเลขทางเศรษฐกิจในแง่บวกเข้ามาก็ตาม
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 3.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 70.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 3.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันปิดบวกอย่างแรงมีขึ้นตามหลังรายงานประจำสัปดาห์ของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (อีไอเอ) ที่พบว่าคลังน้ำมันเบนซินลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะเพิ่มขึ้น
รายงานของอีไอเอยังพบว่า อุปสงค์น้ำมันเบนซินในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันถูกรั้งไว้จากข้อมูลของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ที่ระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรองยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 338.4 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว
ด้าน วอลล์สตรีท ปิดในแดบลบเป็นวันที่สองติดต่อกันเมื่อวันพุธ(30) หลังนักลงทุนกังวลต่อข้อมูลปลดพนักงานของเอกชนอันมากกว่าที่คาดหมายไว้ แม้มีปัจจัยบวกจากรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ระบุว่าเศรษฐกิจของประเทศในไตรมาส 2 หดตัวเหลือเพียง 0.7 เปอร์เซ็นต์
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 30.23 จุด (0.31 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,711.97 จุด แนสแดค ลดลง 1.62 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,122.42 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 3.75 จุด (0.35 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,056.86 จุด
ตลาดปิดในแดนลบ แม้มีปัจจัยบวกกรณีรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับทบทวนจีดีพีไตรมาสสองครั้งสุดท้าย และมีขึ้นในวันสิ้นสุดไตรมาส 3 โดยชี้ว่าเศรษฐกิจของประเทศในไตรมาสสองหดตัวเพียง 0.7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งดีกว่าตัวเลขติดลบ 1 เปอร์เซ็นต์ ในการรายงานก่อนหน้านี้
ตัวเลขดังกล่าวดีกว่าที่คาดหมายไว้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประมาณการณ์ว่าศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะหดดตัว 1.2 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาส 2 ฟื้นจากไตรมาสแรกที่หดตัวถึง 6.4 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ฉุดให้วอลล์สตรีทปิดตัวในแดนลบมาจากภาคแรงงาน หลังอีดีบี ADPองค์กรที่ให้บริการด้านข้อมูลจ้างงานของสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลที่น่าวิตกว่าภาคเอกชนอเมริกามีการปลดพนักงานถึง 254,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้เพียง 200,000 ตำแหน่ง
