xs
xsm
sm
md
lg

น้ำมันทะยานสูงสุดรอบ 5 เดือน-หุ้นสหรัฐฯ พุ่งจากตัวเลขคนตกงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทรดเดอร์ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
เอเจนซี - ราคาน้ำมันทะยานขึ้นอีกกว่า 2 ดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อวันพุธ (6) หลังสต๊อกน้ำมันสหรัฐฯ ลดลงอย่างน่าประหลาดใจ ด้านวอลล์สตรีทปิดในแดนบวกกว่า 100 จุด จากตัวเลขคนตกงานภาคเอกชนในเดือนเมษายนน้อยกว่าคาดหมายไว้ เพิ่มความหวังต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 2.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2008 โดยตอนนั้นราคาอยู่ที่ 57.04 ดอลลาร์ ขณะที่เบรนต์ทะเลเหนือของลอนดอน ปิดที่ 56.15 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.03 ดอลลาร์

ราคาน้ำมันขยับขึ้นสืบเนื่องจากสต๊อกน้ำมันเบนซินสำรองของสหรัฐฯ สัปดาห์ที่แล้วลดลงอย่างไม่คาดคิดมาก่อนถึง 200,000 บาร์เรล เหลือ 212.4 ล้านบาร์เรล สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของ สหรัฐฯ (อีไอเอ)เผยเมื่อวันพุธ(6)

ข้อมูลของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า ด้านคลังน้ำมับดิบสำรองนั้นเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล สู่ระดับ 375.3 ล้านบาร์เรล ทำสถิติสูงสุดในรอบ 19 ปีครั้งใหม่ ทว่าก็ยังถือว่าน้อยว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ(6) ปรับตัวในแดนบวกจากข้อมูลคนว่างงานในภาคเอกชนดีกว่าที่คาดหมาย ช่วยผ่อนคลายความกังวลต่อผลตรวจสอบความมั่นคงของธนาคารต่างๆของรัฐบาล

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 101.63 จุด (1.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,512.28 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 15.73 จุด (1.74 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 919.53 จุด แนสแดก เพิ่มขึ้น 4.98 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,759.10 จุด

รายงานของเอดีพี ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้บริการด้านข้อมูลจ้างงานของสหรัฐฯ ระบุอัตราการปลดพนักงานในภาคเอกชนสหรัฐฯเดือนเมษายน มี 491,000 ตำแหน่ง น้อยกว่า 650,000 ตำแหน่งจากที่คาดหมายไว้ นับเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอาจอยู่ในเส้นทางการฟื้นตัว

อย่างไรก็ตาม ตลาดในวันพุธ(6) นักลงทุนยังชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ หลังรัฐบาลสหรัฐฯมีกำหนดประกาศผลการตรวจสอบความมั่นคงของธนาคารใหญ่ที่สุด 19 แห่งในวันพฤหัสบดี(7) ซึ่งก่อนหน้านี้สื่อมวลชนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่ามีธนาคารใหญ่ 10 แห่งใน 19 แห่งที่รัฐบาลเข้าตรวจสอบ ที่น่าจะต้องระดมเพิ่มทุนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้สามารถรับมือกับวิกฤตที่อาจจะเลวร้ายต่อไปอีก
กำลังโหลดความคิดเห็น