เอเอฟพี - ราคาน้ำมันร่วงลงเล็กน้อยเมื่อวันจันทร์(10) ท่ามกลางความกังวลด้านอุปทานล้นตลาดและดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ขณะที่วอลล์สตรีทก็ปิดลบเช่นกัน จากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุนหลังทะยานขึ้นต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ติด
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 33 เซ็นต์ ปิดที่ 70.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 9 เซนต์ ปิดที่ 73.50 ดอลลาร์
ตลาดน้ำมันปิดลบเล็กน้อยมีขึ้นสืบเนื่องจากค่าดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างน่าประหลาดใจเมื่อวันศุกร์(7) หลังจากอัตราคนว่างงานสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคม ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 15 เดือน ขณะที่ตัวเลขปลดพนักงานก็น้อยกว่าคาดหมายด้วย
ด้านข้อมูลของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ (ดีโออี) ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ก่อภาพผสมผสานต่ออุปสงค์น้ำมันในสหรัฐฯ ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดของโลก
ดีโออีระบุว่า คลังน้ำมันดิบดิบสำรองของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 31 กรกฎาคม มากกว่านักวิเคราะห์คาดหมายถึง 3 เท่า
แต่คลังน้ำมันกลั่นสำรอง ซึ่งประกอบด้วยดีเซลและน้ำมันทำความร้อน กลับลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกลับที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล ส่วนสต๊อกเบนซินก็ลดลง 200,000 บาร์เรล ทว่าน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะลดลงถึง 1.3 ล้านบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์(10) ปิดในแดนลบเล็กน้อย จากแรงเทขายทำกำไรหลังขยับขึ้นต่อเนื่องมา 4 สัปดาห์ และนักลงทุนรอดูสถานการณ์ก่อนหน้าการประชุมทิศทางอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมาการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 32.12 จุด (0.34 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,337.95 จุด หลังจากเมื่อวันศุกร์(7) ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน แนสแดค ลดลง 8.01 จุด (0.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,992.24 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 3.38 จุด (0.33 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,007.10 จุด