เอเจนซี - ราคาน้ำมันดีดกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ กลับไปจ่อระดับ 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อวันพฤหัสบดี (30) หลังได้ปัจจัยบวกของข้อมูลภาคแรงงานจุดประกายรอบใหม่ว่าภาวะถดถอยอาจผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ด้าน วอลล์สตรีท ปิดบวกถ้วนหน้า สืบเนื่องจากผลกระกอบการอันสดใสของบริษัทต่างๆ ทั่วโลก
กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า มีผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานเพิ่มขึ้น 25,000 คน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ยอดเข้ารับสิทธิประโยชน์เดือนกรกฎาคม เป็น 584,000 คน มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวถือว่าน้อยกว่าเดือนมิถุนายน ซึ่งมีผู้ขอเข้ารับสิทธิประโยชน์ 617,000 ราย
ขณะเดียวกัน อีกปัจจัยหนึ่งที่ผลักให้น้ำมันทะยานขึ้นอย่างแรง คือ กรณีธนาคารกลางจีน ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (30) ว่า พวกเขาจะยังคงใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไปเพื่อให้เกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็วและมีเสถียรภาพ หลังจากก่อนหน้านี้มีความกังวลว่าปักกิ่งอาจเคลื่อนไหวคุมเข้มนโยบายการเงินและสินเชื่อ
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 3.57 ดอลลาร์หรือ 5.8 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 66.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนท์ลอนดอน เพิ่มขึ้น 3.58 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพฤหัสบดี (30) ทะยานขึ้นพอประมาณ ตามผลประกอบการอันสดใสของบริษัทต่างๆทั่วโลกและตัวเลขคนว่างงานอเมริกาที่น่าพึงพอใจ
ในช่วงต้นตลาดขยับอย่างแรง โดยเฉพาะเอสแอนด์พี 500 ที่พุ่งขึ้นจ่อระดับทางจิตวิทยา 1,000 จุด เพียงแค่ 4 จุด ขณะที่ แนสแดก ทะยานเหนือ 2,000 จุด เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคมในช่วงสั้นๆ อย่างไรก็ตาม ดัชนีทั้ง 2 ตัวก็ปรับลดลงมาในช่วงท้าย
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 83.74 จุด (0.92 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,154.46 จุด แนสแดก เพิ่มขึ้น 16.54 จุด (0.84 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,984.30 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 11.60 จุด (1.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 986.75 จุด
นอกจากนี้ ข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯแล้ว ปัจจัยสำคัญที่ส่งให้วอลล์สตรีทขยับอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน คือ ผลประกอบการอันแข็งแกร่งของบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ ทั่วโลก อาทิ ฮอนด้า มอเตอร์ และ นิสสัน มอเตอร์ ของญี่ปุ่น บีพีกรุ๊ปในอังกฤษ รวมถึงโมโตโรลาอิงค์ และ ไทโค อินเตอร์เนชันแนล ในสหรัฐอเมริกา
