เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อวันพฤหัสบดี(18) ตามสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ลดลงอย่างมากและความไม่สงบใน 2 ประเทศผู้ส่งออกทั้งอิหร่านกับไนจีเรีย ขณะที่วอลล์สตรีท ปิดในแดนบวกหลังได้ปัจจัยหนุนจากตัวเลขภาคแรงงาน
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 34 เซ็นต์ ปิดที่ 71.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ ปิดที่ 71.06 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ด้วยคลังน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯ ที่ดิ่งลงอย่างแรงแสดงให้เห็นถึงอุปสงค์ทางพลังงานที่กำลังดีขึ้นอยู่บ้างในสหรัฐฯ ชาติผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดในโลก
รายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ (ดีโออี) ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ(17) ระบุว่าสต๊อกน้ำมันดิบสำรองลดลงเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน โดยทรุดฮวบถึง 3.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้
ขณะเดียวกันร าคาน้ำมันยังได้แรงส่งจากความไม่สงบของสองชาติผู้ส่งออก โดยที่อิหร่าน ฝ่ายค้านยังเดินขบวนต่อเนื่องและในวันพฤหัสบดี(18) ผู้ชุมนุมได้ประกอบพิธีไว้อาลัยแก่ผู้ประท้วงที่เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงหลังการเลือกตั้ง
ส่วนที่ไนจีเรีย ชาติผู้ออกน้ำมันรายสำคัญของแอฟริกา กลุ่มนักรบอ้างว่าได้ทำลายท่อลำเลียงน้ำมันดิบหลักแห่งหนึ่งของบริษัทรอยัลดัตช์เชลล์และประกาศเดินหน้าปฏิบัติต่อต้านบริษัทต่างชาติต่อไป
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี(18) ดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี ปิดในแดนบวกตามข้อมูลตลาดแรงงานและภาคการผลิตระดับท้องถิ่นที่เพิ่มความหวังว่าภาวะถดถอยที่เล่นงานเศรษฐกิจกำลังมีเสถียรภาพ
จากข้อมูลพบว่า จำนวนประชาชนที่ขอใช้สิทธิประโยชน์ของคนว่างงานลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม ขณะที่ภาคการผลิตในแถบมิดแอตแลนติกในเดือนมิถุนายนหดตัวน้อยกว่าที่คาดหมายไว้
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 58.42 จุด (0.69 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,555.60 จุด แนสแดค ลดลง 0.34 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,807.72 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 7.66 จุด (0.84 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 918.37 จุด