เอเอฟพี - ราคาน้ำมันลดลงในวันอังคาร (16) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนจากความไม่สงบในชาติผู้ผลิตสำคัญทั้งอิหร่าน และไนจีเรีย ขณะที่วอลล์สตรีทดิ่งลงกว่า 100 จุด ตามตัวเลขน่าผิดหวังของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์แห่งหนึ่ง
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ซื้อขายอย่างผันผวน ช่วงหนึ่งแกว่งลงมาต่ำสุด 69.80 ดอลลาร์ ก่อนทะยานขึ้นไปถึง 72.77 ดอลลาร์ สุดท้ายลงมาปิดตลาดที่ 70.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 15 เซนต์ ขณะที่เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ปิดที่ 70.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันทะยานขึ้นจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และปัจจัยที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ แต่ด้วยความกังวลเกี่ยวกับอุปทานได้กระทบต่อความสนใจของนักลงทุน นักวิเคราะห์กล่าว
ความกังวลด้านอุปทานมีขึ้นตามหลังความรุนแรงสืบเนื่องจากการเลือกตั้งของอิหร่าน ชาติผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโอเปก ที่ล่าสุดสภาผู้ปกครองซึ่งเป็นองค์กรด้านนิติบัญญัติที่สำคัญสูงสุดของอิหร่าน ประกาศพร้อมนับคะแนนใหม่ในหีบลงคะแนนที่เกิดปัญหาความขัดแย้งนำไปสู่เหตุปะทะบนท้องถนนจนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย
ขณะเดียวกัน ความตึงเครียดที่ไนจีเรีย อีกหนึ่งชาติผู้ส่งออกน้ำมันก็เพิ่มสูงขึ้น หลังจากกลุ่มนักรบในเขตไนเจอร์ เดลตา เมื่อวันจันทร์(15) อ้างว่าได้โจมตีโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯเชฟรอน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร(16) ปิดในแดนลบ ตามข้อมูลทางเศรษฐกิจและยอดขายที่น่าผิดหวังของบริษัทเบสต์บาย ที่ก่อความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
เบสต์บายโคอิงค์ บริษัทค้าปลีกอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า มียอดจำหน่ายอ่อนแอกว่าที่คาดหมายไว้ในช่วงไตรมาสแรกและชี้ว่าอาจมีกำไรตลอดปีแย่กว่าที่คาดหมายไว้
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 107.46 จุด (1.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,504.67 จุด แนสแดค ลดลง 20.20 จุด (1.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,796.18 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 11.75 จุด (1.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 911.97 จุด