เอเจนซี/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันหลุดจากระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน เมื่อวันอังคาร(2) จากแรงเทขายทำกำไรหลังขยับขึ้นต่อเนื่องมาหลายวัน ด้านวอลล์สตรีทปิดบวกเล็กน้อยตามตัวเลขยอดขายบ้านอันเข้มแข็งของสหัฐฯ
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 3 เซนต์ ปิดที่ 68.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งของการซื้อขายทะยานไปถึง 69.05 ดอลลาร์ สูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ เบรนต์ลอนดอน เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 68.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันขยับเล็กน้อย หลังจากเมื่อวันจันทร์ (1) ทะยานขึ้นไปเหนือ 68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน หลังได้ปัจจัยบวกจากข่าวที่ชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมของจีน ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ ขยายตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร (2) ยังคงสามารถเคลื่อนไหวในแดนบวกได้อยู่ หลังพบดัชนีการทำสัญญาบ้านที่รอปิดการขายในเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดหมายไว้
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 31.12 จุด (2.36 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,752.52 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.54 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 945.41 จุด แนสแดก เพิ่มขึ้น 9.46 จุด (0.52 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,838.14 จุด
การปรับขึ้นของตลาดมีขึ้นหลังจากสมาคมอสังหาริมทรัพย์แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาบ้านที่รอปิดการขายเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนเมษายน
โดยในเดือนเมษายน ดัชนีการทำสัญญาบ้านที่รอปิดการขาย เพิ่มขึ้นเป็น 6.7 เปอร์เซ็นต์ จาก 3.2 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนมีนาคม เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ถึง 0.5 เปอร์เซ็นต์ และนับว่าเป็นการเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าสูงสุดในรอบ 7 ปีครึ่งเลยทีเดียว
