เอเจนซี/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขยับขึ้นไปเหนือ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันศุกร์(17) จากข่าวความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯเพิ่มขึ้น ขณะที่วอลล์สตรีท ปิดแดนบวกเล็กน้อย หลังซิตี้กรุ๊ปและเจเนรัลด์อิเล็กทริกมีกำไรเกินความคาดหมาย
ทั้งนี้ราคาน้ำมันน่าจะดีดตัวแรงกว่านี้ ทว่าได้ถูกฉุดรั้งไว้จากรายงานคลังน้ำมันดิบสหรัฐฯที่สูงสุดในรอบเกือบ 19 ปี รวมถึงดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ ปิดที่ 50.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ของลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ ปิดที่ 53.35 ดอลลาร์
อีกหนึ่งปัจจัยที่ผลักให้ราคาน้ำมันขยับปิดในแดนบวกคือผลสำรวจของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ที่ระบุว่าความมั่นใจผู้บริโภคสูงขึ้นในเดือนเมษายน อยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนปีก่อน
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ(ดีโออี) กล่าวเมื่อวันพุธ(15) ว่าคลังน้ำมันดิบสำรองเพิ่มขึ้น 5.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดเมื่อวันที่ 10 เมษายน สู่ระดับ 366.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 1990
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์(17) ขยับขึ้นเล็กร้อนหลังมีรายงานว่าซิตี้กรุ๊ปและเจเนรัลด์อิเล็กทริก มีผลประกอบการมีกำไรเกินความคาดหมายอย่างมาก ทำให้วอลล์สตีทปิดในแดนบวกเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกันแล้ว
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 11.47 จุด (0.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,136.90 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.56 จุด (0.54 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 869.95 จุด ขณะที่ แนสแดก บวก 1.46 จุด (0.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,671.90 จุด
นอกจากนี้ซิตี้กรุ๊ปและเจเนรัลด์อิเล็กทริกแล้ว เมื่อวันพฤหัสบดี(16) กูเกิล บริษัทอินเตอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ก็ได้รับคาดหมายว่าจะมีกำไรในช่วงไตรมาสแรกเช่นกัน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดตัวในแดนบวก