น้ำมันยังร่วงต่อเนื่องหลัง ศก.โลกส่งสัญญาณเลวร้ายหนัก

เอเจนซี - ราคาน้ำมันร่วงลงเกือบ 6 เปอร์เซ็นต์ แตะระดับต่ำกว่า 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อวันจันทร์ (22) เหตุนักลงทุนกังวลต่อสัญญาณภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยที่ส่งผลต่ออุปสงค์น้ำมันซึ่งลดลงอย่างต่อเนื่อง

อัตราบริโภคน้ำมันของจีนในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ร่วงลงจากเดือนเดียวกันนี้เมื่อปีที่แล้วถึง 3.2 เปอร์เซ็นต์ จากการคำนวนของรอยเตอร์ ขณะเดียวกันปริมาณการนำเข้าน้ำมันของชาติผู้บริโภคพลังงานอันดับ 2 ของโลก ก็ลดลงต่ำที่สุดในปีนี้

น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 2.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 39.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากงวดส่งมอบเดือนมกราคมเมื่อวันศุกร์ (19) ดิ่งระดับ 32.40 ดอลลาร์ก่อนหมดสัญญาการซื้อขาย ซึ่งถือเป็นราคาต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2004

ขณะที่น้ำมันดิบชนิดเบรนต์ของลอนดอน ลดลง 2.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 41.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

“ปริมาณนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในเดือนพฤศจิกายน ร่วงลงต่ำที่สุดในปีนี้” จอห์น คิลดัฟฟ์ รองประธานเอ็มเอฟโกลบอล เขียนในรายงาน “เพิ่มเติมจากนั้น ธนาคารกลางจีนที่ลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 5 ในรอบปีนี้ ในความพยายามรักษาความเติบโตที่กวัดแกว่งไปมา”

จีนเมื่อวันจันทร์ (22) การลดอัตราดอกเบี้ยรอบที่ 5 นับตั้งแต่เดือนกันยายน และญี่ปุ่นเตือนว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังตกต่ำเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปี มีทั้งปิดโรงงานและการค้าสะดุด

ด้าน โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป แถลงวันจันทร์ (22) คาดหมายว่า ปีนี้บริษัทจะต้องประสบภาวะขาดทุนจากการดำเนินงานเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัท อันเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลต่อตลาดรถยนต์ของโลกอย่างรุนแรง

โตโยต้า บอกว่า คาดหมายว่า ในปีการเงินนี้ (เม.ย.2008-มี.ค.2009) จะขาดทุนจากการดำเนินงานราว 150,000 ล้านเยน (1,690 ล้านดอลลาร์) นับเป็นการขาดทุนครั้งแรกตั้งแต่บริษัทเริ่มรายงานผลประกอบการประจำปีในเดือนมีนาคม 1941 เป็นต้นมา เปรียบเทียบกับปีที่แล้วที่มีกำไรจากดำเนินงาน 2.27 ล้านล้านเยน

นักวิเคราะห์หลายคนบอกว่าข้อตกลงลดกำลังผลิตจากกลุ่มประเทศโอเปก ล้มเหลวในการเหนี่ยวรั้งน้ำมันจากราคาที่ดำดิ่งลงเรื่อยๆ