เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดิ่งลงต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี(20) หลังจากข้อมูลสหรัฐฯเผยตัวเลขคนถูกเลิกจ้างมากที่สุดในรอบ 16 ปี ความกังวลล่าสุดต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตในตลาดนิวยอร์ก งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ดิ่งลง 4 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากทำสถิติร่วงลงต่ำสุดระหว่างการซื้อขาย 48.64 ดอลลาร์ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2005
ทั้งนี้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตในตลาดนิวยอร์ก ไม่เคยแตะระดับต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2007
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตในตลาดนิวยอร์ก ทำลายกำแพงทางจิตวิทยาไม่นานหลังจากน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือในตลาดลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม ร่วงลงอย่างแรงไปแตะระดับ 47.82 ดอลลาร์ ก่อนไต่ขึ้นมาปิดตลาดที่ 48.08 ดอลลาร์ ลดลง 3.64 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์มองว่าปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างหนัก เนื่องจากถูกทุบด้วยรายงานอันน่าห่อเหี่ยวเกี่ยวกับคนตกงานเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ชาติผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก
รายงานอย่างเป็นทางการของสหรัฐฯเผยว่ามีจำนวนคนถูกเลิกจ้างยื่นขอความช่วยเหลือจากทางการครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว มีจำนวน 542,000 คน มากที่สุดในรอบ 16 ปีขณะที่เศรษฐกิจกำลังมุ่งหน้าสู่ภาวะถดถอยอย่างลึกซึ้ง
"ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจคืบคลานเข้ามาเรื่อยๆ มีคนถูกเลิกจ้างเพิ่มขึ้น 27,000 คน เป็น 542,000 คนในสัปดาห์ที่ผ่านมา สูงสุดนับตั้งแต่ปี 1992 ราคาน้ำมันอยู่ภายใต้แรงกดดันตลอดทั้งคืน และอัตราการร่วงลงยังถูกผลักถอยหลังจากข้อมูลดังกล่าวอีกด้วย" จอห์น คิลดัฟฟ์ นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟโกลบอลกล่าว
"ตลาดน้ำมันแสดงปฏิกิริยาตอบรับในทางลบมากขึ้นต่อข่าวเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกในภายภาคหน้า" ไซมอน วาร์เดลล์ นักวิเคราะห์จากไอเอชเอสโกลบอลอินไซต์กล่าว "ด้วยตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงดิ่งลง โดยเฉพาะในเอเชีย ไม่มีข่าวบวกที่จะมาช่วยฟื้นความเชื่อมั่นในตลาดน้ำมันเลย"
เศรษฐกิจทั่วโลกส่อเค้าอาการลำบากสาหัสหนักขึ้นอีกเมื่อวันพฤหัสบดี(20) ภายหลังสหรัฐฯแถลงตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่าความเสี่ยงของภาวะเงินฝืดและความอ่อนแอกำลังเพิ่มมากขึ้น แถม "เฟด" ยังออกปากถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการถดถอยยาวนานและลดประมาณการณ์เติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในปีหน้าลง พร้อมกับแง้มประตูสำหรับการลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเอาไว้
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ นักลงทุนเทขายหุ้นอย่างหนักในช่วงชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขาย ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ดิ่งลง 444.83 จุด ไปปิดที่ 7,552.45 จุด ต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี แนสแดค ปิดที่ 1,316.12 จุด ลดลง 70.30 จุด และ เอสแอนด์พี ดิ่งลง 54.14 จุด ไปปิดที่ 752.44 จุด ต่ำสุดในรอบ 11 ปี