ยูพีไอ - เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในนิวยอร์ก ถึงกับอึ้งเมื่อผลซีทีสแกนพบว่ามัมมี่อียิปต์ร่างหนึ่งที่มีชื่อว่า เลดีฮอร์ ไม่ได้เป็นผู้หญิงอย่างที่สรุปไว้ตั้งแต่แรก
เจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์บรูคลินเปิดเผยว่าร่างของเลดีฮอร์ ถูกผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยนอร์ทชอร์ ใน Manhasset นิวยอร์ก นำเข้าเครื่องซีทีสแกนเพื่อพิสูจน์ว่ามันมี่ร่างนี้เสียชีวิตจากสาเหตุใดหรือบางทีอาจเจอเชื้อโรคโบราณที่ได้คร่าชีวิตเธอเมื่อกว่า 2,000 ปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ผลที่ออกมาทำให้ผู้เชี่ยวชาญต้องตะลึงเมื่อเลดีฮอร์ ไม่ใช่ผู้หญิงอย่างที่ใครๆ คิด หลังวิวัฒนาการสมัยใหม่จากซีทีสแกนเผยให้เห็นถึงถุงอัณฑะ และอัณฑะ ที่ระบุชัดว่ามัมมี่ตนนี้เป็นเพศชายอย่างแท้จริง หนังสือพิมพืนิวยอร์กเดลีรายงานเมื่อวันพุธ(1)
“แน่นอนว่าเป็นเพศชาย” เอ็ดวาร์ด เบลเบิร์ก ผู้ดูแลศิลปะอียิปต์ของพิพิธภันฑ์ กล่าว “ในทางสรีรศาสตร์ มันชัดเจนแล้ว”
เบลเบิร์กบอกว่า มัมมี่นี้ถูกคิดว่าเป็นเพศหญิงมานานนับตั้งแต่ค้นพบครั้งแรกในปี 1937 เพราะขาดสิ่งสำคัญนั่นคือหนวด ซึ่งจะคงทนอยู่ตามคุณลักษณะสำคัญของมัมมี่เพศชายที่หนวดหรือเส้นผมจะยังคงสภาพตราบจนปัจจุบันซึ่งสิ่งเหล่านั้นจะไม่พบในมัมมีเพศหญิง
“ด้วยเพราะมัมมี่ไม่มีหนวดเครา เราจึงสันนิษฐานมาตั้งแต่ปี 1937 ว่าเธอเป็นผู้หญิง ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย” เขากล่าว นี่จะเป็นการเปลี่ยนแนวความคิดของเราต่อวิธีสันนิษฐานว่ามัมมีตนใดเป็นเพศหญิงหรือชาย”