เอเอฟพี - ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ออกมาเตือนเมื่อวันจันทร์ (15) ว่า ภาคการเงินการธนาคารในยูโรโซนยังคงเผชิญความเสี่ยงหลายๆ ประการ ถึงแม้ธนาคารกลางและรัฐบาลต่าง ๆจะออกมาตรการอัดฉีด เพื่อให้สินเชื่อเริ่มไหลเวียนในระบบเศรษฐกิจต่างๆ บ้างแล้วก็ตาม
“เรายังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้เลย เนื่องจากความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงินยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวงจรสินเชื่อยังไม่ได้หมุนไปปกติ” อีซีบีกล่าวในรายงานเสถียรภาพทางการเงินของยูโรโซนฉบับล่าสุดที่เผยแพร่ในวันจันทร์
“บรรดาผู้กำหนดนโยบายและผู้เล่นในตลาด ควรจะตื่นตัวเป็นพิเศษในช่วงเวลาข้างหน้านี้” อีซีบี บอก
ลูคัส ปาปาดีมอส รองประธานของอีซีบี กล่าวในการแถลงข่าวว่า อีซีบี เห็นว่า ธนาคารในเขตยูโรโซนอาจจะต้องตั้งสำรองเพื่อตัดหนี้สูญอีกเป็นจำนวน 283,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (204,000 ล้านยูโร) ภายในสิ้นปี 2010 โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง
ในช่วงระหว่างปี 2007-2010 อีซีบี คาดว่า การตัดยอดหนี้สูญ หรือสินทรัพย์ที่มีมูลค่าลดน้อยลงเรื่อยๆ เป็นต้นว่า หลักทรัพย์ที่อิงอยู่กับสินเชื่อที่อยู่อาศัยความเสี่ยงสูง “น่าจะมีมูลค่าถึง 649,000 ล้านดอลลาร์” ปาปาดีมอส กล่าว
ก่อนหน้านี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เคยคาดการณ์ว่า มูลค่าการตัดยอดหนี้สูญทั้งหมด น่าจะอยู่ราว 900,000 ล้านยูโร
ประเทศในเขตยูโรโซน 16 ชาติต่างกำลังอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยในบางประเทศนั้นถือว่าเป็นครั้งที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมาทีเดียว อีซีบี และรัฐบาลต่าง ๆ ต่างอัดฉีดเงินสดและสินเชื่อจำนวนมหาศาลเข้าไปเพื่อกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจมิให้หดตัวลงสะดุดหยุด
อย่างไรก็ตาม พวกธนาคารพาณิชย์ยังคงไม่เต็มใจที่จะปล่อยกู้อย่างเต็มที่แก่ภาคบริษัทและภาคครัวเรือน ส่วนหนึ่งก็เนื่องจากพวกเขายังมีภาระหนี้และสินทรัพย์เน่าเสียที่ไม่ได้ตั้งสำรองอยู่ในงบดุลบัญชีเป็นจำนวนมหึมา และภาวะสินเชื่อที่ยังคงตึงตัวเช่นนี้ก็กำลังคุกคามทำให้เศรษฐกิจไม่สามารถฟื้นตัวได้
สำหรับอีซีบีแล้ว ความเสี่ยงหลักๆ ที่ระบบการเงินของยูโรโซนยังต้องเผชิญ ได้แก่ การที่ฐานเงินทุนยังคงลดค่าลงเรื่อยๆ และการสูญเสียความเชื่อมั่นในธนาคารขนาดใหญ่ที่อาจกลับมาอีกหากว่าเศรษฐกิจโลกยิ่งทรุดต่ำเลวร้ายลงและยาวนานกว่าที่คาดเอาไว้
ส่วนพวกบริษัทประกันภัยนั้น อีซีบีเตือนว่าอาจเผชิญภาวะที่งบดุลตึงตัวอย่างรุนแรง และมูลค่าของสินทรัพย์อย่างเช่นหุ้น และหลักทรัพย์อื่นๆ จะลดลงไปอีกอย่างต่อเนื่องในตลาดที่ผันผวนรุนแรง
ในด้านสิ่งที่อยู่นอกระบบการเงิน อีซีบี ระบุว่า ความเสี่ยงสำคัญอีกประการหนึ่งได้แก่การที่ราคาบ้านในสหรัฐฯยังอาจจะลดลงกว่าที่คาดเอาไว้ และมีความเป็นไปได้ที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย “อาจเลวร้ายกว่าที่ได้คาดเอาไว้ในปัจจุบัน”
ท้ายที่สุด ปัญหาด้านเศรษฐกิจและการเงินจะเพิ่มมากขึ้นในประเทศยุโรปกลางและตะวันออก และจะมีปัญหาต่อเนื่องมาถึงธนาคารในยุโรปตะวันตกที่เข้าไปลงทุน หรือให้สินเชื่อในภูมิภาคดังกล่าวเป็นจำนวนมหาศาล
