“ประดิษฐ์” มอบนโยบายเอสเอ็มอีแบงก์ เตรียมพร้อมให้บริการ sme Power ที่จะเริ่มในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ชี้ระยะอีก 2 เดือนก่อนสิ้นปี ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะชี้ชะตาผู้ประกอบการไทย ด้านรักษาการเอ็มดีเตรียมเรียกประชุมผู้บริหารวางยุทธศาสตร์ปีหน้า หวังกู้ชื่อสถาบัน
วันนี้ (6 พ.ย.) นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการตรวจและมอบนโยบายให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ว่า ต้องการให้พนักงานของเอสเอ็มอีแบงก์ ทั้งฝ่ายบริหาร และปฏิบัติการณ์ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เตรียมความพร้อมให้มากที่สุด เพื่อจะสามารถบริการลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอีที่ต้องการใช้บริการจากโครงการ sme Power ที่จะเริ่มในวันที่ 11 พ.ย.นี้
ทั้งนี้ การเตรียมความพร้อมให้บริการโครงการ SME Power ให้จัดเจ้าหน้าที่สินเชื่อ ณ สำนักงานใหญ่ 300 คน และทีมเจ้าหน้าที่สาขา 99 แห่งทั่วประเทศ เตรียมให้คำปรึกษา หากเอสเอ็มอีสนใจติดต่อ Call Center 1357 ซึ่งพร้อมให้ข้อมูลทุกด้านแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
รมช.คลัง กล่าวต่อว่า ในระยะอีกประมาณ 2 เดือนก่อนสิ้นปีนี้ อยากให้เอสเอ็มอีแบงก์เป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ทั้งที่เป็นลูกค้ารายเดิม และลูกค้าใหม่ ซึ่งสิ่งสำคัญที่จะทำให้โครงการประสบความสำเร็จ คือ เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องมีความพร้อมที่จะให้บริการ
สำหรับแนวทางการเพิ่มทุนด้วยการใช้เงินจากงบกลาง 100,000 ล้านบาท จำนวน 2,000 ล้านบาท ต้องให้เอสเอ็มอีแบงก์ไปทำแผนการสนับสนุนเอสเอ็มอีให้ชัดเจน เพื่อก่อให้เกิดการจ้างงานโดยเร็ว หากแผนไม่ชัดเจนอาจใช้เงินเพิ่มทุนให้ไม่ได้ ซึ่งจะสรุปรายละเอียดในการประชุมคณะกรมการเอสเอ็มอีแบงก์ในวันที่ 21 พ.ย.นี้ สำหรับยอดหนี้คงค้างของธนาคารขณะนี้มีจำนวน 48,000 ล้านบาท คาดว่าภายในสิ้นปีจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 5 ส่วนหนี้เอ็นพีแอล 22,000 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 50 เมื่อปรับโครงสร้างการทำงาน และปรับปรุงประสิทธิภาพด้านต่าง ๆ ภายใน 4 ปี คาดว่าเอ็นพีแอลจะลดลงเหลือร้อยละ 15 ด้วยการบริหารจัดการหนี้ด้วยตนเอง การจ้างหน่วยงานอื่นบริหาร และตัดหนี้เสียในส่วนที่ฟื้นฟูไม่ได้
ทั้งนี้ การสรรหาผู้จะมาดำเนินตำแหน่งกรรมการผู้จัดการเอสเอ็มอีแบงก์คนใหม่นั้น เวลานี้ อยู่ระหว่างขั้นตอนการทำงานของคณะกรรมการสรรหาซึ่งมีนายพิชิต อัคราทิตย์ เป็นประธาน
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ ชาเจียมเจน รักษาการกรรมการผู้จัดการ เอสเอ็มอี แบงก์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 21 พ.ย. นี้ ทีมบริหารของธนาคาร จะประชุมหารือ เพื่อวางแผนยุทธศาสตร์ของธนาคารในปี 2552 โดยแนวทางที่ฝ่ายบริหารจะเสนอคือ การเปลี่ยนแปลงพลิกโฉมของธนาคารตามนโยบายของคณะกรรมการธนาคาร ซึ่งมั่นใจว่าแผนปีหน้าจะมียุทธศาสตร์ใหม่ๆออกมาช่วยผู้ประกอบการ หลังจากนั้น จะนำแผนดังกล่าวเสนอต่อ รมช.คลังต่อไป
