เอเอฟพี/ซีเอ็นเอ็น - ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวันอังคาร (16) หั่นอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 1% สู่ระดับ 0% ถึง 0.25% ซึ่งถือเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1954
อัตราดอกเบี้ยต่ำอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนซึ่งแถลงโดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีเป้าหมายต่อสู้กับภาวะเงินฝืดและวิกฤตสินเชื่อโลกตึงตัว
เพิ่มเติมจากนั้น เฟด ยังกล่าวว่า จะใช้เครื่องมืออื่นๆ กระตุ้นการกู้ยืมและมาตรการพิเศษทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงซื้อหนี้และหลักทรัพย์ค้ำประกันจำนองเพื่อเพิ่มการหมุนเวียนของสินเชื่อ
“นับตั้งแต่การประชุมคณะกรรมการครั้งสุดท้าย ตลาดแรงงานอยู่ในสภาพเสื่อมถอยและข้อมูลที่ออกมาบ่งชี้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภค การลงทุนธุรกิจและการผลิตทางอุตสาหกรรมลดลง” เฟด กล่าวหลังจากตัดสินใจอย่างเป็นเอกฉันท์
“ตลาดทางการเงินยังคงตึงเครียดและภาวะสินเชื่อคับขัน โดยรวมแล้วมีทีท่าว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะอ่อนแอลงไปอีก” เฟดระบุ
ธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่นำโดย เบน เบอร์นันกี กล่าวว่าอาจจะดำเนินการเพื่อสนับสนุนตลาดการเงินและกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการซื้อขายหลักทรัพย์โดยธนาคารกลางในตลาด รวมถึงมาตรการอื่นๆ
ผลจากการที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงใกล้ 0 เปอร์เซ็นต์และสัญญาว่าจะเพิ่มมาตรการต่างๆ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ส่งให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดตลาดในแดนบวก โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ดีดตัวขึ้น 362.32 จุด (4.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,926.85 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ ดัชนีแนสแดก กระโดดขึ้นไป 81.55 จุด (5.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,589.89 เปอร์เซ็นต์ และเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวสูงขึ้น 44.69 จุด (5.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 913.26
อัตราดอกเบี้ยต่ำอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนซึ่งแถลงโดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีเป้าหมายต่อสู้กับภาวะเงินฝืดและวิกฤตสินเชื่อโลกตึงตัว
เพิ่มเติมจากนั้น เฟด ยังกล่าวว่า จะใช้เครื่องมืออื่นๆ กระตุ้นการกู้ยืมและมาตรการพิเศษทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงซื้อหนี้และหลักทรัพย์ค้ำประกันจำนองเพื่อเพิ่มการหมุนเวียนของสินเชื่อ
“นับตั้งแต่การประชุมคณะกรรมการครั้งสุดท้าย ตลาดแรงงานอยู่ในสภาพเสื่อมถอยและข้อมูลที่ออกมาบ่งชี้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภค การลงทุนธุรกิจและการผลิตทางอุตสาหกรรมลดลง” เฟด กล่าวหลังจากตัดสินใจอย่างเป็นเอกฉันท์
“ตลาดทางการเงินยังคงตึงเครียดและภาวะสินเชื่อคับขัน โดยรวมแล้วมีทีท่าว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะอ่อนแอลงไปอีก” เฟดระบุ
ธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่นำโดย เบน เบอร์นันกี กล่าวว่าอาจจะดำเนินการเพื่อสนับสนุนตลาดการเงินและกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการซื้อขายหลักทรัพย์โดยธนาคารกลางในตลาด รวมถึงมาตรการอื่นๆ
ผลจากการที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงใกล้ 0 เปอร์เซ็นต์และสัญญาว่าจะเพิ่มมาตรการต่างๆ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ส่งให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดตลาดในแดนบวก โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ดีดตัวขึ้น 362.32 จุด (4.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,926.85 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ ดัชนีแนสแดก กระโดดขึ้นไป 81.55 จุด (5.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,589.89 เปอร์เซ็นต์ และเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวสูงขึ้น 44.69 จุด (5.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 913.26