นายเบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยืนยันมีแนวโน้มน้อยลงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะถดถอยรุนแรง แต่มีความเสี่ยงมากขึ้นที่สหรัฐฯ จะประสบกับปัญหาเงินเฟ้อ ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการปรับอัตราดอกเบี้ย
ถ้อยแถลงของนายเบอร์นันกี สะท้อนให้เห็นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจไม่ใช้วิธีลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกแล้วในปีนี้ เพราะเกรงจะทำให้เงินเฟ้อทวีความรุนแรงขึ้น
ส่วนตัวเลขการว่างงานในสหรัฐฯ ซึ่งพุ่งสูงถึงร้อยละ 5.5 เมื่อเดือนที่แล้ว จนทำให้หลายฝ่ายวิตกในปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้น นายเบอร์นันกี ย้ำว่าไม่ต้องวิตก เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วงปรับตัว และเนื่องจากภาครัฐได้ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายอย่าง ส่งผลให้ภาคก่อสร้างดีขึ้นตามลำดับ ตลาดสินเชื่อและตลาดเงินมีการปรับตัวในทางที่ดีขึ้น และภาคการส่งออกของสหรัฐฯ ยังดีอยู่ จึงเป็นปัจจัยผลักดันให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะเดินหน้าต่อไปได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้
ดังนั้น จึงมีความเสี่ยงน้อยลงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะถึงขั้นถดถอยรุนแรง แต่สิ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ วิตกในตอนนี้ก็คือปัญหาเงินเฟ้อ สืบเนื่องจากน้ำมันมีราคาสูงขึ้น และเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็อ่อนค่าลง ด้วยเหตุนี้นักเศรษฐศาสตร์หลายคนจึงเชื่อมั่นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิม ในการประชุมครั้งหน้า วันที่ 24 - 25 มิถุนายนนี้ แต่คาดว่าถ้าตัวเลขเงินเฟ้อสูงขึ้น ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจใช้วิธีขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายภายในปีนี้ หรือปีหน้าก็เป็นได้
ถ้อยแถลงของนายเบอร์นันกี สะท้อนให้เห็นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจไม่ใช้วิธีลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกแล้วในปีนี้ เพราะเกรงจะทำให้เงินเฟ้อทวีความรุนแรงขึ้น
ส่วนตัวเลขการว่างงานในสหรัฐฯ ซึ่งพุ่งสูงถึงร้อยละ 5.5 เมื่อเดือนที่แล้ว จนทำให้หลายฝ่ายวิตกในปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้น นายเบอร์นันกี ย้ำว่าไม่ต้องวิตก เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วงปรับตัว และเนื่องจากภาครัฐได้ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายอย่าง ส่งผลให้ภาคก่อสร้างดีขึ้นตามลำดับ ตลาดสินเชื่อและตลาดเงินมีการปรับตัวในทางที่ดีขึ้น และภาคการส่งออกของสหรัฐฯ ยังดีอยู่ จึงเป็นปัจจัยผลักดันให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะเดินหน้าต่อไปได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้
ดังนั้น จึงมีความเสี่ยงน้อยลงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะถึงขั้นถดถอยรุนแรง แต่สิ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ วิตกในตอนนี้ก็คือปัญหาเงินเฟ้อ สืบเนื่องจากน้ำมันมีราคาสูงขึ้น และเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็อ่อนค่าลง ด้วยเหตุนี้นักเศรษฐศาสตร์หลายคนจึงเชื่อมั่นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิม ในการประชุมครั้งหน้า วันที่ 24 - 25 มิถุนายนนี้ แต่คาดว่าถ้าตัวเลขเงินเฟ้อสูงขึ้น ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจใช้วิธีขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายภายในปีนี้ หรือปีหน้าก็เป็นได้