เอเอฟพี - จำนวนนคนว่างงานในชาติอุตสาหกรรมชั้นนำจะเพิ่มขึ้นอีก 8 ล้านคนในช่วง 2 ปีข้างหน้า ขณะที่ชาติร่ำรวยกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 25 ปี องค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจและพัฒนา (โอดีซีดี)กล่าวเมื่อวันอังคาร(25)
"จำนวนคนว่างงานจะเพิ่มขึ้นเป็น 42 ล้านคนในปี 2010 จาก 34 ล้านคนในปัจจุบัน" รายงานของโอดีซีดีระบุ พร้อมคาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นจาก 5.5 เปอร์เซ็นต์ในช่วงต้นปี 2008 เป็น 7.25 เปอร์เซ็นต์ในปี 2010
ข้อมูลดังกล่าวเป็นตัวเลขในขอบเขตชาติสมาชิก 30 ประเทศของโอดีซีดี ซึ่งรวมไปถึงชาติในทวีปอเมริกาเหนือ ประเทศส่วนใหญ่ของยุโรป และชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของเอเชียแปซิฟิก
"จากประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์ชี้ว่าเยาวชน คนเข้าเมือง แรงงานระดับล่างและคนงานสูงอายุ เป็นกลุ่มที่ว่างงานเพิ่มขึ้น" โอดีซีดี กล่าว "นอกจากนี้แรงงานที่เป็นสัญญาจ้างชั่วคราวก็เป็นกลุ่มเสี่ยงตกงานในภาวะเศรษฐกิจถดถอยเช่นนี้" ขณะเดียวกันคนงานที่ถูกปลดจากงานมากที่สุดอยู่ในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์และก่อสร้าง
ในช่วงสิ้นปี 2009 อัตราคนว่างงานในสหรัฐฯคาดหมายว่าจะปรับตัวสูงขึ้นจากช่วงสิ้นปี 2007 อย่างต่ำ 2.0 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับ สหราชอาณาจักร ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์และสเปน
ขณะที่ประเทศที่ถูกคาดมายว่าอัตราคนว่างงานจะปรับตัวสูงขึ้นราว 1-2 เปอร์เซ็นต์มีอยู่ 9 ชาติสมาชิกของโอดีซีดี ซึ่งรวมไปถึง ฝรั่งเศส อิตาลี แคนาดาและออสเตรเลีย
สหรัฐฯ ต้นตอของวิกฤตการเงินและชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก อัตราคนว่างงานเพิ่มขึ้น 6.5 เปอร์เซ็นต์ในเดือนตุลาคมและมีประชาชนราว 2.8 ล้านคนแล้วที่ถูกเลิกจ้างในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
คาดหมายว่าอัตราคนว่างงานในสหรัฐฯจะก้าวสู่ระดับสูงสุดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2010 อยู่ที่ 7.6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่คนว่างงานในเขตยูโรโซนจะแตะระดับสูงสุด 9.1 เปอร์เซ็นต์ ณ ช่วงเวลาเดียวกัน
ส่วนญี่ปุ่น คาดหมายว่าจะมีคนว่างงานเพิ่มขึ้นจาก 4.1 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ เป็นราว 4.4 เปอร์เซ็นต์ในปี 2009 และ 2010
"จำนวนคนว่างงานจะเพิ่มขึ้นเป็น 42 ล้านคนในปี 2010 จาก 34 ล้านคนในปัจจุบัน" รายงานของโอดีซีดีระบุ พร้อมคาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นจาก 5.5 เปอร์เซ็นต์ในช่วงต้นปี 2008 เป็น 7.25 เปอร์เซ็นต์ในปี 2010
ข้อมูลดังกล่าวเป็นตัวเลขในขอบเขตชาติสมาชิก 30 ประเทศของโอดีซีดี ซึ่งรวมไปถึงชาติในทวีปอเมริกาเหนือ ประเทศส่วนใหญ่ของยุโรป และชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของเอเชียแปซิฟิก
"จากประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์ชี้ว่าเยาวชน คนเข้าเมือง แรงงานระดับล่างและคนงานสูงอายุ เป็นกลุ่มที่ว่างงานเพิ่มขึ้น" โอดีซีดี กล่าว "นอกจากนี้แรงงานที่เป็นสัญญาจ้างชั่วคราวก็เป็นกลุ่มเสี่ยงตกงานในภาวะเศรษฐกิจถดถอยเช่นนี้" ขณะเดียวกันคนงานที่ถูกปลดจากงานมากที่สุดอยู่ในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์และก่อสร้าง
ในช่วงสิ้นปี 2009 อัตราคนว่างงานในสหรัฐฯคาดหมายว่าจะปรับตัวสูงขึ้นจากช่วงสิ้นปี 2007 อย่างต่ำ 2.0 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับ สหราชอาณาจักร ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์และสเปน
ขณะที่ประเทศที่ถูกคาดมายว่าอัตราคนว่างงานจะปรับตัวสูงขึ้นราว 1-2 เปอร์เซ็นต์มีอยู่ 9 ชาติสมาชิกของโอดีซีดี ซึ่งรวมไปถึง ฝรั่งเศส อิตาลี แคนาดาและออสเตรเลีย
สหรัฐฯ ต้นตอของวิกฤตการเงินและชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก อัตราคนว่างงานเพิ่มขึ้น 6.5 เปอร์เซ็นต์ในเดือนตุลาคมและมีประชาชนราว 2.8 ล้านคนแล้วที่ถูกเลิกจ้างในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
คาดหมายว่าอัตราคนว่างงานในสหรัฐฯจะก้าวสู่ระดับสูงสุดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2010 อยู่ที่ 7.6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่คนว่างงานในเขตยูโรโซนจะแตะระดับสูงสุด 9.1 เปอร์เซ็นต์ ณ ช่วงเวลาเดียวกัน
ส่วนญี่ปุ่น คาดหมายว่าจะมีคนว่างงานเพิ่มขึ้นจาก 4.1 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ เป็นราว 4.4 เปอร์เซ็นต์ในปี 2009 และ 2010