แนะรัฐบาลใหม่กู้ภาพลักษณ์ประเทศ "ต่างชาติ" คาใจภาวะฉุกฉิน

หอการค้าต่างชาติ แนะรัฐบาลใหม่เร่งแก้ภาพลักษณ์ประเทศ เผยต่างชาติกังวลไทยไม่ปลอดภัย หลังการประกาศภาวะฉุกเฉิน 2สนามบิน และกระแสข่าวที่สื่อประโคมออกไป ทำให้นักลงทุนเกิดความหวาดกลัว ต่างกับความเป็นจริงที่มองว่า ไทยมีความปลอดภัย และมีพื้นฐานการลงทุนที่ดี โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์

วันนี้ (14 ธันวาคม 2551) นายปีเตอร์ จอห์น แวน ฮาเรน ประธานหอการค้าต่างประเทศในไทย กล่าวถึงรัฐบาลใหม่ของไทยที่กำลังจะตั้งขึ้นในเดือนนี้ ควรจะต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนโดยเร็วที่สุด เพราะขณะนี้ ภาพลักษณ์ประเทศไทยเสียหายไปจากการออกข่าวสถานการณ์รุนแรงทางการเมือง แม้สถานการณ์จริงในประเทศจะไม่เลวร้าย แต่ข่าวที่ออกไปทำให้ต่างชาติเกิดความหวาดกลัว และมองว่าไทยไม่มีความปลอดภัย

ดังนี้ รัฐบาลใหม่ต้องเร่งให้ข่าวที่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะประเทศไทย ยังมีความปลอดภัย และมีพื้นฐานการลงทุนที่ดี พร้อมแนะนำว่า จะต้องเปลี่ยนการรับรู้ภาพลักษณ์ประเทศไทยในสายตานานาชาติใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะการถูกมองว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินของรัฐบาลชุดก่อน ทำให้ถูกมองว่า การเดินทางไม่ปลอดภัยจากเหตุการณ์การปิดสนามบิน ทั้งที่ความจริงแล้ว เป็นเรื่องที่ตรงกันข้าม

นายปีเตอร์ กล่าวย้ำว่า รัฐบาลใหม่ต้องชี้แจงสิ่งเหล่านี้ รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นที่ว่า การเมืองนับจากนี้ไปจะมีเสถียรภาพที่มั่นคง ต้องนำประเทศให้หลุดจากความเสี่ยงจากปัญหาการเมืองเปลี่ยนไปสู่การมีเสถียรภาพอย่างแท้จริง รวมถึงเปลี่ยนภาพลักษณ์ประเทศให้มีความปลอดภัย

สำหรับการลงทุนเดิมที่มีอยู่เดินนั้น ประธานหอการค้าต่างประเทศมีความมั่นใจว่าจะไม่ย้ายฐานการลงทุนไปประเทศอื่น เพราะนักลงทุนในไทยเข้าใจสถานการณ์ดี แต่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ คงต้องใช้เวลาตัดสินใจอีกนาน เพราะไทยมีภาพลบมากต้องทำให้เห็นว่า ไม่ใช่อย่างที่คิด

"นักลงทุนต่างประเทศต้องการเห็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ เพื่อคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก่อนกำหนดแผนการลงทุน เดิมการเมืองเป็นเพียงพื้นฐานที่จะเอื้ออำนวยต่อเศรษฐกิจและธุรกิจเท่านั้น แต่ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา การเมืองกลายเป็นอุปสรรคขัดขวาง การทำธุรกิจ เราไม่สนใจว่าใครจะเป็นนายกฯ แต่สนใจความมั่นคงทางการเมืองและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ"

ทั้งนี้ ไทยยังมีพื้นฐานการลงทุนที่ดี อาทิ อุตสาหกรรมรถยนต์ ที่ต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยจนกลายเป็นดีทรอยต์ออฟเอเชีย ต่างจากอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐฯ ที่มีปัญหาจนต้องปิดตัวลง จากสาเหตุตลาดไม่มีความต้องการ แต่ไทยเป็นแหล่งผลิตป้อนตลาดขนาดใหญ่ทั้งภายในประเทศและตลาดเอเชีย และไทยยังเป็นประเทศที่น่าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลกน้อยมาก ยกเว้นภาคการส่งออก หากมีการแก้ปัญหาภายในให้หมดไป สร้างความสามัคคีต่อสู้กับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้