xs
xsm
sm
md
lg

AIG เร่งทำบัญชี "สินทรัพย์" ที่จะขาย หาเงินใช้คืนเฟดก่อนถูก รบ.ยึด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซี - อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (เอไอจี) แสดงท่าทีจะเปิดเผยรายการสินทรัพย์ที่บริษัทจะขายออกมาในสัปดาห์หน้า เพราะต้องการหาเม็ดเงินเอามาจ่ายคืนเงินกู้ฉุกเฉินที่ยืมมาจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อย่างเร่งด่วน เพื่อบริษัทจะได้ไม่ต้องตกอยู่ในมือของรัฐบาล

เอไอจีซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นบริษัทประกันภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก จำเป็นต้องระดมเงินสดมาโดยเร็ว เพื่อใช้คืนเงินกู้จำนวน 85,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทางเฟดอนุมัติให้มาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่เอไอจีกำลังลำบากท่าท่าจะต้องขอความคุ้มครองตามกฎหมายล้มละลาย ภายหลังขาดทุนมหาศาลในตราสารอนุพันธ์ซึ่งอิงกับสินเชื่อที่อยู่อาศัย จนถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ และราคาหุ้นตกฮวบฮาบ

"เราจะนำเอาสินทรัพย์ที่เรามีอยู่ซึ่งน่าจะมีมูลค่าอยู่มากออกมาขาย โดยที่ทางผู้ซื้อจะสามารถเลือกซื้อสินทรัพย์เหล่านี้เท่าที่จะสามารถไปบริหารได้ และเราก็จะเริ่มต้นประกาศขายนับจากนี้ไปโดยไม่มีพิธีรีตองอันใด" เอดเวิร์ด ลิดดี้ ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เห็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอไอจีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กล่าวในขณะให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซี ที่เป็นโทรทัศน์ช่องข่าวการเงิน

"ผมหวังว่าในอีก 7-10 วันข้างหน้าจะมีรายการต่าง ๆที่เราต้องการขายอย่างครบถ้วน และอาจจะสามารถตกลงซื้อขายบางอย่างได้บ้างแล้วด้วย" ลิดดี้กล่าว

เขากล่าวว่า เอไอจีน่าจะสามารถจ่ายคืนหนี้ที่กู้เฟดมา "โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้" เพราะหากว่าปล่อยให้เนิ่นช้าไป รัฐบาลสหรัฐฯ ก็จะใช้สิทธิ์เข้าครอบครองหุ้นเกือบ 80% ของบริษัท

ลิดดี้มิได้ให้รายละเอียดว่าเอไอจีจะขายหน่วยงานใดออกไปบ้าง แต่นักวิเคราะห์ก็พากันเดาว่า อินเตอร์เนชั่นแนล ลีส ไฟแนนซ์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทเช่าซื้อเครื่องบินที่ทำกำไรได้มหาศาล และบริษัทอเมริกัน เจเนอราล ซึ่งเป็นบริษัทประกันชีวิตและจัดเก็บเบี้ยประกันขนาดใหญ่ที่เอไอจีเพิ่งซื้อเข้ามาเมื่อปี 2001 น่าจะอยู่ในอันดับต้น ๆของรายการที่จะขายออกไป

ลิดดี้ กล่าวอีกว่า เมื่อขายสินทรัพย์ไปแล้วย่อมทำให้เอไอจีเล็กลงกว่าเดิม โดยบริษัทจะมุ่งเน้นธุรกิจที่เป็นจุดแข็งมาแต่เดิมซึ่งก็คือ การประกันวินาศภัยและประกันภัยอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งธุรกิจที่มีอยู่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเอเชีย ที่ขยายตัวรวดเร็ว

"บริษัทจะกลับทำธุรกิจที่เคยทำอยู่ก่อนปี 1998 และ 1999 แต่ว่าจะพึ่งพาธุรกิจบริการทางการเงินน้อยลงไปมาก" ลิดดี้กล่าว

รายงานเมื่อวันจันทร์ (22) หลายกระแสบอกว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ของเอไอจีกลุ่มหนึ่ง ซึ่งน่าจะรวมทั้ง มัวรีซ กรีนเบิร์ก อดีตซีอีโอคนดังของเอไอจี กำลังมองหาหนทางที่จะจ่ายหนี้เฟดให้เร็วที่สุดโดยการขายสินทรัพย์หรือไม่ก็ระดมเม็ดเงินใหม่เข้ามา

แต่ลิดดี้ให้สัมภาษณ์คราวนี้ โดยปฏิเสธว่า คงจะไม่ได้เป็นไปตามรายงานพวกนั้น และเขาก็คงไม่ไปตกลงเช่นนั้นกับกรีนเบิร์ก ทั้งนี้ หุ้นของเอไอจีดีดขึ้น 22.6% เมื่อวันจันทร์หลังจากรายงานหลายกระแสบอกว่าพวกผู้ถือหุ้นอาจจะหาทางป้องกันมิให้เอไอจีตกไปอยู่ในมือของรัฐบาลได้ และหลายคนก็มองว่าเอไอจีจะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งหากว่าขายสินทรัพย์ออกไปได้

"ตอนนี้ตลาดประกันภัยที่เคยแข่งขันกันรุนแรงก็ชะลอตัวไปมาก ดังนั้นหลายบริษัทก็คงอยากจะเข้าคว้าสินทรัพย์ที่เอไอจีจะขายออกมากัน" แอนดรูว์ บาริล ที่ปรึกษาอิสระด้านการประกันภัยกล่าว เขาบอกว่า เอไอจีซึ่งขายกรมธรรม์ประกันภัยแทบทุกชนิดในตลาดต่างๆ ทั่วโลก เมื่อรวมทุกๆ ส่วนแล้วน่าจะมีมูลค่าสูงถึง 180,000 ล้านดอลลาร์ทีเดียว

ส่วนราคาหุ้นของบริษัทประกันภัยคู่แข่ง อย่าง ชับบ์ คอร์ป หรือเอกซ์แอล แคปปิตอล กลับร่วงลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์ ราคาหุ้นของบริษัทเหล่านี้ทะยานขึ้นติดกันมาหลายวันเพราะนักลงทุนคาดว่าผู้ประกันตนจะย้ายไปใช้บริการของที่อื่นแทนเอไอจีที่กำลังซวนเซ

ทางด้านผู้ถือหุ้นเอไอจี ย่อมอยากจะให้บริษัทสามารถจ่ายหนี้คืนเฟดไปได้ เพราะมิเช่นนั้นเมื่อทางการเข้าบริหารกิจการด้วยหุ้น 80% ในมือ ก็ย่อมทำให้หุ้นในมือผู้ถือหุ้นปัจจุบันต้องถูกลดมูลค่าลงไปอย่างมาก

นักวิเคราะห์เห็นว่า ในสายตาของผู้ถือหุ้นแล้ว เป็นการดีกว่าที่จะจ่ายคืนหนี้ฉุกเฉินโดยการตัดขายสินทรัพย์และหน่วยงานต่างๆ ออกไป เพราะบริษัทจะยังคงมีธุรกิจบางธุรกิจที่แข็งแกร่งเหลืออยู่
กำลังโหลดความคิดเห็น