xs
xsm
sm
md
lg

ฝึกซ้อมการเข้าโจมตีอิหร่าน

เผยแพร่:   โดย: ปีเตอร์ เฮิร์ชเบิร์ก

(จากเอเชียไทมส์ออนไลน์ www.atimes.com)

Training to attack Iran
By Peter Hirschberg
26/06/2007

ข่าวที่ถูกปล่อยรั่วไหลออกมาว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กองทัพอากาศอิสราเอลได้ทำสิ่งที่ดูเหมือนกับเป็นการซ้อมรบใหญ่เพื่อเข้าโจมตีบรรดาสถานที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน ได้ก่อให้เกิดความตื่นเต้นเกรียวกราวหันมากพอดูตามเมืองหลวงต่างๆ ทั่วโลก ทว่าไม่ใช่ในอิสราเอล ที่ซึ่งมีแนวคิดกันอยู่ว่า ถ้าหาก “ทางเลือกทุกอย่าง” ที่จะใช้จัดการกับอิหร่านยังคงวางแบอยู่บนโต๊ะไว้ให้เลือกใช้ได้กันจริงๆ แล้ว ย่อมเป็นการดีที่สุดที่จะต้องมีการเตรียมตัวเพื่อที่จะใช้ทางเลือกเหล่านั้นด้วย

เยรูซาเลม – พวกผู้เชี่ยวชาญด้านกลาโหมที่เป็นชาวอิสราเอล ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจกับรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กองทัพอากาศอิสราเอลได้ทำสิ่งที่ดูเหมือนกับเป็นการซ้อมรบใหญ่เพื่อเข้าโจมตีบรรดาสถานที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน

พวกผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้บอกว่า อิสราเอลนั้นไม่ได้เคยทอดทิ้งทางเลือกแห่งการใช้กำลังทหารเลย ดังนั้น พวกเขาจึงคาดหมายอยู่แล้วว่ากองทัพอากาศจะมีการฝึกฝนเพื่อเข้าไปโจมตีในอิหร่าน “มันเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่กองทัพกำลังฝึกฝนเพื่อภารกิจในอิหร่าน” เป็นความเห็นของ เอฟราอิม อินบาร์ ผู้อำนวยการศูนย์กลางเบกิน-ซาดัตเพื่อการศึกษาทางยุทธศาสตร์ ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กรุงเทลอาวีฟ “เรากำลังเตรียมตัวสำหรับเรื่องนี้ กองทัพอากาศคือผู้ที่จะทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบในกรณีนี้”

เครื่องบินขับไล่ไอพ่นแบบ เอฟ-16 และ เอฟ-15 จำนวนกว่า 100 ลำ ตลอดจนเครื่องเฮลิคอปเตอร์และพวกเครื่องบินทำหน้าที่เติมน้ำมันให้กลางอากาศ ได้เข้าร่วมการซ้อมรบคราวนี้ที่บริเวณด้านตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและประเทศกรีซเมื่อต้นเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ตามข่าวของนิวยอร์กไทมส์ รายงานของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ซึ่งอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯหลายคนโดยไม่ระบุชื่อ กล่าวว่าเครื่องเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินเติมน้ำมัน ครอบคลุมระยะทาง 1,400 กิโลเมตร ซึ่งใกล้เคียงกับระยะทางระหว่างอิสราเอลกับโรงงานเพิ่มความเข้มข้นยูเรเนียมที่นาตันซ์

รายงานข่าวชิ้นนี้อ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่เพนตากอน (กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ)ที่ไม่ระบุนามผู้หนึ่ง ซึ่งกล่าวว่า การซ้อมรบครั้งนี้ยังมีความมุ่งหมายให้เป็นการส่งสารไปให้ใครๆ รับรู้กัน เจ้าหน้าที่ผู้นี้บอกกับนิวยอร์กไทมส์ว่า พวกอิสราเอล “ต้องการบอกให้เราทราบ, พวกเขาต้องการบอกให้ฝ่ายยุโรปทราบ, และพวกเขาก็ต้องการบอกให้ฝ่ายอิหร่านทราบ มีการส่งสัญญาณกันออกมามากมายและในระดับที่แตกต่างกันไปหลายๆ ระดับ”

ทางด้านกองทัพอิสราเอลก็มิได้ปฏิเสธรายงานข่าวนี้ โดยกล่าวในคำแถลงฉบับหนึ่งแต่เพียงว่า กองทัพอาอากาศของอิสราเอล “ทำการฝึกฝนอยู่เป็นประจำเพื่อการปฏิบัติภารกิจหลากหลาย ในอันที่จะประจันหน้าและแก้ไขอุปสรรคความยากลำบากต่างๆ ที่ก่อให้เกิดขึ้น จากบรรดาภัยคุกคามซึ่งอิสราเอลกำลังเผชิญอยู่”

การใช้ เอฟ-16 และ เอฟ-15 ก็เป็นการสอดคล้องกับการฝึกฝนเพื่อกระทำภารกิจในลักษณะที่พูดถึงกันอยู่ เพราะเครื่องบินรบพิสัยทำการไกลทั้ง 2 แบบนี้ย่อมจะต้องถูกใช้งานแน่นอน หากอิสราเอลต้องเปิดฉากถล่มใส่อิหร่าน อินบาร์บอกกับสำนักข่าวอินเตอร์เพรสเซอร์วิสว่า เขา “แน่ใจ” ว่ากองทัพกำลังเตรียมตัวเพื่อการถล่มใส่สถานที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน และมี “เพียงคำถามว่าจะมีการตัดสินใจจากฝ่ายการเมืองที่จะเดินหน้าแผนการนี้หรือไม่เท่านั้นเอง”

สำหรับพวกผู้นำอิสราเอลนั้น เมื่อถูกถามว่าอิสราเอลจะเปิดการโจมตีถล่มใส่อิหร่านหรือไม่ ก็มักให้คำตอบแบบกว้างๆ คลุมเครือ โดยกล่าวเพียงว่า “ทางเลือกทุกอย่าง” ยังคงถูกวางแบเตรียมพร้อมไว้บนโต๊ะ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ เออิทาน เบน-เอลิยาฮู กล่าวว่า เขาแน่ใจว่าฝ่ายทหารกำลังซ้อมรบใหญ่เพื่อการปฏิบัติการที่อาจจะเกิดขึ้นมา “ไม่มีทางเลือกแห่งการใช้กำลังทหารหรอก ถ้าหากว่าไม่มีการฝึกฝนเพื่อให้สามารถใช้ทางเลือกแห่งการใช้กำลังทหาร”เขากล่าวในสัปดาห์นี้กับช่อง “แชนเนลวัน” ของสถานีโทรทัศน์อิสราเอล

เบน-เอลิยาฮูบอกว่า เขามองการปล่อยข่าวรั่วออกมาให้เป็นรายงานในหนังสือพิมพ์เช่นนี้ ในลักษณะที่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามทางการทูต ที่มุ่งจะขัดขวางไม่ให้อิหร่านบรรลุตามความมุ่งมาดปรารถนาทางด้านนิวเคลียร์ของตน “การซ้อมรบเหล่านี้จำเป็นต้องกระทำ เพราะมันก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทางการทูตดังกล่าว” เขากล่าว “การแบไพ่ของคุณออกมาให้เห็นก็เป็นการเสริมความเข้มแข็งให้แก่ทางเลือกทางด้านการทูต และไม่มีทางเลือกทางการทูตหรอกถ้าปราศจากกำลังทหารมาคอยหนุนหลัง”

ผู้นำอิสราเอลที่ออกมาแสดงความเห็นในประเด็นปัญหาอิหร่านอย่างสุดห้าวที่สุด ย่อมจะเป็นรองนายกรัฐมนตรี ชาอุล โมฟาซ ผู้ซึ่งเป็นอดีตผู้บัญชาการทหาร และอดีตรัฐมนตรีกลาโหม เขากล่าวในเดือนนี้ว่า อิสราเอล “จะโจมตี” ถ้าอิหร่านไม่ระงับโครงการนิวเคลียร์ของตน “การโจมตีอิหร่าน เพื่อหยุดยั้งแผนการนิวเคลียร์ของพวกเขา จะเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เลย” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์ ทั้งอิสราเอลและสหรัฐฯเชื่อว่าอิหร่านมีความโน้มเอียงที่จะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ทว่าเตหะรานยืนยันว่า โครงการนิวเคลียร์ของตนเป็นโครงการเพื่อประโยชน์ทางพลเรือน

พวกผู้นำทางการเมืองในอิสราเอลต่างออกมาวิพากษ์ตำหนิโมฟาซ ผู้ซึ่งมองตัวเองว่ามีศักยภาพที่จะเป็นทายาทของนายกรัฐมนตรี เอฮุด โอลเมิร์ต ที่กำลังถูกโจมตีหนักจนน่วมไปหมด พวกเขากล่าวหาโมฟาซว่า กำลังฉวยใช้ประโยชน์จากปัญหายุทธศาสตร์อันอ่อนไหวยิ่งที่เผชิญหน้าอิสราเอลอยู่ เพียงเพื่อระบายสีแต่งแต้มตัวเองให้ดูประหนึ่งเป็นผู้นำที่ทระนงองอาจ พวกเจ้าหน้าที่อิสราเอลนั้นพยายามที่จะลดทอนน้ำหนักของคำวิจารณ์เช่นนี้ โดยมีรายงานว่าได้ไปแจ้งกับเพื่อนร่วมงานชาวสหรัฐฯของพวกเขาว่า ความเห็นเช่นนี้ไม่ได้สะท้อนนโยบายของรัฐบาลอิสราเอล

ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว เมื่อบรรดาหน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐฯได้ออกรายงานการประเมินสถานการณ์ข่าวกรองแห่งชาติ (National Intelligent Estimate) ซึ่งระบุว่า ในปี 2003 อิหร่านได้ระงับงานทางด้านการออกแบบอาวุธนิวเคลียร์แล้ว ความเห็นที่ปรากฏกันอยู่ทั่วไปในอิสราเอลก็คือ ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐฯ จะไม่หันไปใช้กำลังในความพยายามที่จะหยุดยั้งเตหะรานจากการเดินหน้าเรื่องนิวเคลียร์ (รายงานฉบับนี้ได้บอกด้วยว่า ไม่สามารถที่จะวินิจฉัยได้ว่า อิหร่านได้มีการรื้อฟื้นงานทางด้านนี้ขึ้นมาอีกหรือไม่)

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่า อิสราเอลจะไม่ –หรือไม่สามารถ- ที่จะกระทำเพียงลำพังในการเข้าโจมตีพวกสถานที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน เพราะอิหร่านได้กระจายที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของตนไปทั่วประเทศ อีกทั้งยังได้สร้างสถานที่เหล่านี้ไว้ในระดับลึกใต้ดิน และกำบังล้อมรอบด้วยกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็ก ทำให้เป็นเรื่องลำบากที่จะเล็งเป้าหมายใส่สถานที่เหล่านี้ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ

พวกผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้โต้แย้งว่า อิสราเอลไม่ได้มีความสามารถที่จะปฏิบัติการโจมตีในลักษณะที่จะต้องโจมตีแบบให้มีผลต่อเนื่องยืนยาว ต่อเป้าหมายที่มีหลากหลายและได้รับการคุ้มกันเป็นอย่างดี โดยจะต้องทำได้เช่นนี้นั่นแหละ จึงจะสามารถทำให้โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านดำเนินต่อไปไม่ได้ –หรือกระทั่งเสียหายยับเยิน

ทว่าอิสราเอลก็เคยกระทำการแต่เพียงลำพังมาแล้วในอดีต เมื่อเกิดสงสัยว่ารัฐอาหรับแห่งหนึ่งแห่งใดกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ฝูงเครื่องบินอิสราเอลได้บินกันไปจนถึงอิรักในปี 1981 และทำลายโรงงานนิวเคลียร์ที่เมืองโอซิรัค ซึ่งสร้างโดย ซัดดัม ฮุนเซน หรือในเดือนกันยายนปีที่แล้ว ฝูงเครื่องบินอิสราเอลก็เข้าทำลายสถานที่แห่งหนึ่งในซีเรีย ซึ่งพวกเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯแถลงในเวลาต่อมาว่า เป็นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่สร้างขึ้นด้วยความช่วยเหลือของเกาหลีเหนือ

เมื่อได้ฟังคำพูดที่ออกจะกำกวมของ เบน-เอลิยาฮู แล้ว มันไม่ได้เป็นน้ำเสียงที่บ่งบอกเลยว่า ความยากลำบากที่อิสราเอลจะต้องประสบในการเข้าโจมตีสถานที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่านนั้น จะหยุดยั้งไม่ให้กองทัพอิสราเอลเลิกราการซ้อมรบเพื่อดำเนินปฏิบัติในเรื่องนี้ “ไม่มีทางเลือกแห่งการใช้กำลังทหารหรอก ถ้าหากว่าไม่มีการฝึกฝนเพื่อให้สามารถใช้ทางเลือกแห่งการใช้กำลังทหาร” เขากล่าว

(สำนักข่าวอินเตอร์เพรสเซอร์วิส)
กำลังโหลดความคิดเห็น