นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 22 มีนาคม 2565 เวลา 16.00 นาฬิกา) พบผู้ต้องขังติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 43 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นการพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่จากภายนอก จึงมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 988 ราย เป็นกลุ่มสีเขียว 91% กลุ่มสีเหลือง 8.3% และกลุ่มสีแดง 0.7% มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 89,329 ราย หรือ 96% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 92,934 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต จึงมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 199 ราย หรือ 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ ไม่พบเรือนจำระบาดใหม่เพิ่ม ขณะที่เรือนจำกลางเพชรบุรีสามารถกลับมาปฏิบัติงานได้ตามปกติแล้วในวันนี้ ส่งผลให้เรือนจำสีขาวมีจำนวนเพิ่มเป็น 130 แห่ง และเรือนจำสีแดงลดลงเหลือ 12 แห่ง โดยแบ่งเป็นเรือนจำระบาดใหม่ 4 แห่ง เรือนจำที่พบการระบาดซ้ำในแดนบางส่วน 2 แห่ง และมีเรือนจำ 6 แห่งที่ลดการระบาดและอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค (แผน EXIT) ซึ่งจะพ้นจากการระบาดได้ในระยะต่อไป
ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ใช้ระบบการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเป็นประจำทุกวันจากยอดผู้ต้องขังติดเชื้อที่ได้รับการตรวจในรูปแบบ RT-PCR เป็นหลัก ที่ถือเป็นการยืนยันผลที่ชัดเจนเช่นเดียวกับแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ของประเทศ ซึ่งยังไม่ได้รวมถึงการพบผู้ติดเชื้อเข้าข่าย/ATK อย่างไรก็ดี กรมราชทัณฑ์ได้เพิ่มข้อมูลส่วนนี้แล้วในภาพอินโฟกราฟิกประจำวัน โดยผู้ต้องขังที่ป่วยติดเชื้อทุกรายได้รับการดูแลรักษาตามมาตรฐานตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การกำกับดูแลของกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลแม่ข่าย กระทรวงสาธารณสุข
ในส่วนของการดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังนั้นปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 248,261 ราย หรือคิดเป็น 91.36% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 267,276 ราย