นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 7 มีนาคม 2565 เวลา 16.00 นาฬิกา) พบผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 34 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการพบในห้องแยกกักโรค 33 ราย พบในเรือนจำสีแดง 1 ราย จึงมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 1,406 ราย เป็นกลุ่มสีเขียว 88% กลุ่มสีเหลือง 11.2% และกลุ่มสีแดง 0.8% มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 87,577 ราย หรือ 96% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 91,552 ราย มีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย (ผู้ต้องขังที่ทัณฑสถานวัยหนุ่มนครศรีธรรมราช) จึงมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 193 ราย หรือ 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ ไม่พบเรือนจำระบาดใหม่ ส่งผลให้มีเรือนจำสีขาวจำนวนคงเดิมคือ 130 แห่ง และเรือนจำสีแดงจำนวน 12 แห่ง โดยแบ่งเป็นเรือนจำระบาดใหม่ 4 แห่ง และที่พบการระบาดเพียงบางส่วนอีก 4 แห่ง ขณะที่มีเรือนจำจำนวนหนึ่งอยู่ในแผนลดการระบาดของโรค (แผน EXIT) แล้ว ซึ่งคาดว่าจะพ้นจากการระบาดของโรคได้ในระยะต่อไป
ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ใช้ระบบการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเป็นประจำทุกวันจากยอดผู้ต้องขังติดเชื้อที่ได้รับการตรวจในรูปแบบ RT-PCR เป็นหลัก ที่ถือเป็นการยืนยันผลที่ชัดเจนเช่นเดียวกับแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ของประเทศ ซึ่งยังไม่ได้รวมถึงการพบผู้ติดเชื้อเข้าข่าย/ATK อย่างไรก็ดี กรมราชทัณฑ์ได้เพิ่มข้อมูลส่วนนี้แล้วในภาพอินโฟกราฟิกประจำวัน โดยผู้ต้องขังที่ป่วยติดเชื้อทุกรายได้รับการดูแลรักษาตามมาตรฐานตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การกำกับดูแลของกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลแม่ข่าย กระทรวงสาธารณสุข
ในส่วนของการดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังนั้นปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 248,245 ราย หรือคิดเป็น 93.08% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 266,684 ราย