นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มีนาคม 2565 เวลา 16.00 นาฬิกา) พบผู้ต้องขังติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 103 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการพบในห้องแยกกักโรค 100 ราย และพบในเรือนจำสีแดง 3 ราย จึงมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 1,249 ราย เป็นกลุ่มสีเขียว 91.2% กลุ่มสีเหลือง 8.2% และกลุ่มสีแดง 0.6% มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 88,791 ราย หรือ 96% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 92,644 ราย มีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย จากเรือนจำกลางเพชรบุรี จึงมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 198 ราย หรือ 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ พบว่ามีการระบาดใหม่ที่เรือนจำอำเภอแม่สะเรียง ซึ่งเป็นเพียงการระบาดซ้ำในแดนบางส่วนเท่านั้น ขณะที่เรือนจำกลางตาก พ้นจากการระบาดของโรคและสามารถกลับมาปฏิบัติงานได้แล้วในวันนี้ จึงมีเรือนจำสีขาวคงที่คือ 131 แห่ง และเรือนจำสีแดง 11 แห่ง โดยแบ่งเป็นเรือนจำระบาดใหม่ 3 แห่ง และที่พบการระบาดเพียงบางส่วนอีก 4 แห่ง โดยมีเรือนจำ 4 แห่งที่ลดการระบาดและอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค (แผน EXIT) ซึ่งจะพ้นจากการระบาดได้ในระยะต่อไป
ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ใช้ระบบการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเป็นประจำทุกวันจากยอดผู้ต้องขังติดเชื้อที่ได้รับการตรวจในรูปแบบ RT-PCR เป็นหลัก ที่ถือเป็นการยืนยันผลที่ชัดเจนเช่นเดียวกับแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ของประเทศ ซึ่งยังไม่ได้รวมถึงการพบผู้ติดเชื้อเข้าข่าย/ATK อย่างไรก็ดี กรมราชทัณฑ์ได้เพิ่มข้อมูลส่วนนี้แล้วในภาพอินโฟกราฟิกประจำวัน โดยผู้ต้องขังที่ป่วยติดเชื้อทุกรายได้รับการดูแลรักษาตามมาตรฐานตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การกำกับดูแลของกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลแม่ข่าย กระทรวงสาธารณสุข
ในส่วนของการดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังนั้นปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 248,278 ราย หรือคิดเป็น 93.05% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 266,830 ราย