นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 14 มีนาคม 2565 เวลา 16.00 นาฬิกา) พบผู้ต้องขังติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 54 ราย โดยทั้งหมดเป็นการพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่จากภายนอก จึงมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 1,173 ราย เป็นกลุ่มสีเขียว 92.7% กลุ่มสีเหลือง 6.6% และกลุ่มสีแดง 0.7% มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 88,556 ราย หรือ 96% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 92,320 ราย และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตติดต่อกันเป็นวันที่ 5 จึงมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 197 ราย หรือ 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ พบการระบาดใหม่ที่เรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี ซึ่งได้ดำเนินการประสานโรงพยาบาลแม่ข่ายเพื่อเข้าคัดกรอง รักษา ให้ยา และควบคุมการระบาดอย่างเป็นระบบแล้ว ส่งผลให้สถานะเรือนจำสีขาวลดลงเหลือ 129 แห่ง และเรือนจำสีแดงเพิ่มขึ้นเป็น 13 แห่ง โดยแบ่งเป็นเรือนจำระบาดใหม่ 5 แห่ง และที่พบการระบาดเพียงบางส่วนอีก 4 แห่ง โดยมีเรือนจำ 4 แห่งที่ลดการระบาดและอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค (แผน EXIT) ซึ่งจะพ้นจากการระบาดได้ในระยะต่อไป
ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ใช้ระบบการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเป็นประจำทุกวันจากยอดผู้ต้องขังติดเชื้อที่ได้รับการตรวจในรูปแบบ RT-PCR เป็นหลัก ที่ถือเป็นการยืนยันผลที่ชัดเจนเช่นเดียวกับแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ของประเทศ ซึ่งยังไม่ได้รวมถึงการพบ ผู้ติดเชื้อเข้าข่าย/ATK อย่างไรก็ดี กรมราชทัณฑ์ได้เพิ่มข้อมูลส่วนนี้แล้วในภาพอินโฟกราฟิกประจำวัน โดยผู้ต้องขังที่ป่วยติดเชื้อทุกรายได้รับการดูแลรักษาตามมาตรฐานตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การกำกับดูแลของกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลแม่ข่าย กระทรวงสาธารณสุข
ในส่วนของการดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังนั้นปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 248,271 ราย หรือคิดเป็น 93.2% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 266,415 ราย