วันนี้ (30 ม.ค.) นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงความคืบหน้าการดำเนินการจัดการคราบน้ำมันดิบของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่รั่วไหลลงสู่ทะเลตั้งแต่ช่วงกลางดึกวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า การดำเนินการกำจัดมวลคราบน้ำมันที่ลอยอยู่ในทะเลยังมีปัญหา เนื่องจากคราบน้ำมันที่ฉีดพ่นด้วยสารเคมี เพื่อหวังแตกโมเลกุลให้เล็กและจมก้นทะเลนั้น ปรากฏว่าคราบน้ำมันที่ถูกฉีดพ่นไม่ยอมจมลงก้นทะเล ในทางตรงกันข้ามคราบน้ำได้แตกกระจายเป็นวงกว้างมากขึ้นจนทำให้ยากต่อการกำจัด แต่โชคดีที่คลื่นทะเลค่อนข้างสงบ จึงทำให้คราบน้ำมันเหล่านั้น ไม่ถูกพัดลอยเข้าชายหาด
สำหรับคราบน้ำมันที่เล็ดลอดขึ้นชายหาดแม่รำพึงเป็นแนวยาวกว่า 3 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 29 มกราคมนั้น ได้ระดมกำลังทหารนาวิกโยธินเกือบ 100 นาย เข้าเก็บกวาดตักทรายที่ปนเปื้อนคราบน้ำมันออกจากบริเวณชายหาด และสามารถเก็บคราบน้ำมันออกจากชายหาดได้เกือบหมดแล้ว เพื่อนำไปกำจัดให้ถูกวิธีต่อไป และการประกาศให้ชายหาดแม่รำพึงเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เพื่อให้การแก้ปัญหาสามารถดำเนินการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งหวังใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ส่วนหน้าในการบริหารจัดการแก้ปัญหาครั้งนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีความกังวลและมีปัญหาในการดำเนินการ เนื่องจากไม่สามารถควบคุมมวลคราบน้ำมันก้อนนี้ได้ แต่จะพยายามเข้าสกัดมวลคราบน้ำมันดังกล่าวเพื่อป้องกันคราบน้ำมันเหล่านี้เข้าสู่ชายหาดเกาะเสม็ด แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ จ.ระยอง ยืนยันว่า ทุกฝ่ายได้บูรณาการทำงานกันอย่างเข้มแข็งเพื่อแก้ปัญหา โดยจะไม่ขอระบุระยะเวลาว่าจะสามารถดำเนินการกับคราบน้ำมันที่เหลือเสร็จสิ้นได้เมื่อไร
สำหรับคราบน้ำมันที่เล็ดลอดขึ้นชายหาดแม่รำพึงเป็นแนวยาวกว่า 3 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 29 มกราคมนั้น ได้ระดมกำลังทหารนาวิกโยธินเกือบ 100 นาย เข้าเก็บกวาดตักทรายที่ปนเปื้อนคราบน้ำมันออกจากบริเวณชายหาด และสามารถเก็บคราบน้ำมันออกจากชายหาดได้เกือบหมดแล้ว เพื่อนำไปกำจัดให้ถูกวิธีต่อไป และการประกาศให้ชายหาดแม่รำพึงเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เพื่อให้การแก้ปัญหาสามารถดำเนินการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งหวังใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ส่วนหน้าในการบริหารจัดการแก้ปัญหาครั้งนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีความกังวลและมีปัญหาในการดำเนินการ เนื่องจากไม่สามารถควบคุมมวลคราบน้ำมันก้อนนี้ได้ แต่จะพยายามเข้าสกัดมวลคราบน้ำมันดังกล่าวเพื่อป้องกันคราบน้ำมันเหล่านี้เข้าสู่ชายหาดเกาะเสม็ด แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ จ.ระยอง ยืนยันว่า ทุกฝ่ายได้บูรณาการทำงานกันอย่างเข้มแข็งเพื่อแก้ปัญหา โดยจะไม่ขอระบุระยะเวลาว่าจะสามารถดำเนินการกับคราบน้ำมันที่เหลือเสร็จสิ้นได้เมื่อไร
