นายโชคชัย พนมขวัญ นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ โพสต์เฟซบุ๊ก “ช้างหลวง”ระบุว่า กราบเรียนพี่น้องทุกท่านทราบครับ ตามที่ผมได้ถูกเพิกถอนจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ มีสาเหตุเกิดจากเรื่องใด
1. สืบเนื่องจากกรณีที่ผมได้ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลเรื่องการลดภาษีโรงแรมฯ ซึ่งศาลอาญาฯ ได้ตัดสินแล้วว่าผมกระทำอย่างถูกต้อง ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับโรงแรมเครือญาต แต่ลดให้กับทุกโรงแรม
2. เรื่องการชะลอการจัดเก็บค่าจอดรถ ซึ่งผมเห็นว่าไม่คุ้มค่าและเป็นการ สร้างภาระให้กับประชาชน จึงได้ชะลอการจัดเก็บ เพื่อทดลองว่าถ้าไม่มีพนักงานมายืนอำนวยความสะดวก จะเป็นระเบียบเรียบร้อยหรือไม่ โดยไม่ได้ขออนุมัติจากสภาฯก่อน เป็นการทดลองปฏิบัติ ในฐานะนายกเทศมนตรี เมื่อเห็นว่าเป็นระเบียบเรียบร้อยดี ได้นำเสนอสภาฯ แต่ทางสภาฯไม่เห็นชอบด้วยจึงได้มาเก็บใหม่
ศาลฯ ได้ตัดสินว่าผมทำถูกต้องแล้วเป็นการรักษาผลประโยชน์ของเทศบาล
แม้กระทั่ง คสช. ที่เคยใช้ ม.44 สั่งให้ผมหยุดปฏิบัติหน้าที่ ได้สั่งให้ผมกลับมาทำหน้าที่ต่อ
แต่กระทรวงมหาดไทยยังเห็นว่าในเรื่องระเบียบวินัยบังไม่ถูกต้องจึงได้สั่งให้ ผมออกจากตำแหน่งไปก่อน และให้นำเรื่องไปสู่ศาลปกครอง ดังนั้นในเรื่องความผิดทางอาญาหรือการทุจริตของผมจึงไม่มี คงเหลือในเรื่องของการใช้ดุลยพินิจของผม ที่จะต้องชี้ให้ศาลเห็นว่า ผมไม่ได้ทำผิดระเบียบ และกฎหมาย
โดยส่วนตัวผมยังรับใช้ พี่น้องประชาชน ตามแนวทางที่พ่อผมได้ทำไว้ มีสิ่งใดที่ผมพอจะมีประโยชน์กรุณาอย่าได้เกรงใจครับ ขอบคุณในความมีเมตตาจากทุกๆ ท่านมาโดยตลอด
1. สืบเนื่องจากกรณีที่ผมได้ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลเรื่องการลดภาษีโรงแรมฯ ซึ่งศาลอาญาฯ ได้ตัดสินแล้วว่าผมกระทำอย่างถูกต้อง ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับโรงแรมเครือญาต แต่ลดให้กับทุกโรงแรม
2. เรื่องการชะลอการจัดเก็บค่าจอดรถ ซึ่งผมเห็นว่าไม่คุ้มค่าและเป็นการ สร้างภาระให้กับประชาชน จึงได้ชะลอการจัดเก็บ เพื่อทดลองว่าถ้าไม่มีพนักงานมายืนอำนวยความสะดวก จะเป็นระเบียบเรียบร้อยหรือไม่ โดยไม่ได้ขออนุมัติจากสภาฯก่อน เป็นการทดลองปฏิบัติ ในฐานะนายกเทศมนตรี เมื่อเห็นว่าเป็นระเบียบเรียบร้อยดี ได้นำเสนอสภาฯ แต่ทางสภาฯไม่เห็นชอบด้วยจึงได้มาเก็บใหม่
ศาลฯ ได้ตัดสินว่าผมทำถูกต้องแล้วเป็นการรักษาผลประโยชน์ของเทศบาล
แม้กระทั่ง คสช. ที่เคยใช้ ม.44 สั่งให้ผมหยุดปฏิบัติหน้าที่ ได้สั่งให้ผมกลับมาทำหน้าที่ต่อ
แต่กระทรวงมหาดไทยยังเห็นว่าในเรื่องระเบียบวินัยบังไม่ถูกต้องจึงได้สั่งให้ ผมออกจากตำแหน่งไปก่อน และให้นำเรื่องไปสู่ศาลปกครอง ดังนั้นในเรื่องความผิดทางอาญาหรือการทุจริตของผมจึงไม่มี คงเหลือในเรื่องของการใช้ดุลยพินิจของผม ที่จะต้องชี้ให้ศาลเห็นว่า ผมไม่ได้ทำผิดระเบียบ และกฎหมาย
โดยส่วนตัวผมยังรับใช้ พี่น้องประชาชน ตามแนวทางที่พ่อผมได้ทำไว้ มีสิ่งใดที่ผมพอจะมีประโยชน์กรุณาอย่าได้เกรงใจครับ ขอบคุณในความมีเมตตาจากทุกๆ ท่านมาโดยตลอด