ตามที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงโตเกียว และจังหวัดโอกินาวา จนถึงวันที่ 22 สิงหาคม 2564 นั้น เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 นายซูกะ โยชิฮิเดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับประกาศขยายสถานการณ์ฉุกเฉินในหลายจังหวัด สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เพิ่มสูงขึ้นมีรายละเอียดดังนี้
1. สถานการณ์การแพร่ระบาดในญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นระบุว่า ขณะนี้ เชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และเนื่องจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้าได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่นในขณะนี้ จึงมีความกังวลว่า การแพร่ระบาดจะลุกลามไปมากขึ้นกว่าเดิม
2. การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน สืบเนื่องจากสถานการณ์ในข้อ 1 นายกรัฐมนตรีซูกะ จึงได้ขยายสถานการณ์ฉุกเฉินในหลายจังหวัด ดังนี้
2.1 การขยายเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงโตเกียวและจังหวัดโอกินาวะ รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศต่ออายุสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงโตเกียวและจังหวัดโอกินาวะ ให้ขยายไปจนถึงวันที่
31 สิงหาคม 2564
2.2 การประกาศพื้นที่สถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มเติม รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศให้จังหวัดไซตามะ ชิบะ คานากาวะ และโอซากา เป็นพื้นที่ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จากเดิมที่อยู่ภายใต้สถานการณ์กึ่งฉุกเฉิน (มัมโบ) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 2 – 31 สิงหาคม 2564
2.3 การประกาศสถานการณ์กึ่งฉุกเฉิน (มัมโบ) รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศใช้มาตรการกึ่งฉุกเฉิน (มัมโบ) ในจังหวัดฮอกไกโด อิชิกาวะ เกียวโต เฮียวโกะ และฟูกูโอกะ ตั้งแต่วันที่ 2 – 31 สิงหาคม 2564
3. มาตรการภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ยังคงเดิม ได้แก่
(1) ขอให้ไม่ออกนอกบ้านหากไม่มีเหตุจำเป็น
(2) ไม่ให้ร้านอาหารจำหน่ายแอลกอฮอล์ และปิดร้านคาราโอเกะ
(3) ขอให้พนักงานทำงานจากบ้านประมาณร้อยละ 70 ของพนักงานทั้งหมด
(4) ขอให้ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าขนาดใหญ่ปิดทำการ หรือจำกัดเวลาเปิดทำการได้จนถึง 20.00 น.
(5) ในช่วงที่มีการระบาดหนัก งดจัดงานอีเวนท์ต่าง ๆ หรือจัดได้โดยมีผู้ชมเข้าร่วมกิจกรรมได้สูงสุดไม่เกิน 5,000 คน หรือไม่เกินครึ่งหนึ่งของความจุของสถานที่ และปิดงานภายในเวลา 21.00 น.
(6) เน้นการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด รวมไปถึงการสวม
หน้ากากอนามัย ล้างมือ และหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด เพื่อป้องกันมิให้นำเชื้อไปแพร่ระบาดในผู้สูงอายุ
(7) มีมาตรการช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจ โดยเป็นไปตามขนาดของธุรกิจ
ทั้งนี้ ทางการญี่ปุ่นอาจปรับปรุงมาตรการตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป จึงขอให้ติดตามข่าวสาร จากทางการญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด