นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า วันนี้กรมราง ฯ ได้จัดประชุมหารือการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงรังสิต-บางซื่อ-ตลิ่งชัน โดยมีนายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมรางฯ ผู้แทนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เข้าร่วม
โดยที่ประชุมได้พิจารณาประเด็นการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงรังสิต-บางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่ประชุมได้พิจารณาการกำหนดอัตราแรกเข้าและอัตราค่าโดยสารต่อกิโลเมตร เพื่อให้ได้อัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม เป็นธรรม ไม่เป็นภาระต่อประชาชน และไม่เป็นภาระหนี้สินต่อ รฟท. ในอนาคต โดยมีมติสำคัญ คือ ให้วิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติมตามกรณีศึกษาอัตราค่าแรกเข้าและค่าโดยสารต่อกิโลเมตร เพื่อกรมการขนส่งทางราง จัดทำข้อเสนอในการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟชานเมืองสายสีแดง ที่เหมาะสมและเป็นธรรม พร้อมรายงานกระทรวงคมนาคมต่อไป
การจัดเก็บอัตราค่าแรกเข้าในกรณีเดินทางเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ และความพร้อมรองรับการใช้บัตรโดยสาร Smart Card ที่ประชุมได้มีมติให้กรมการขนส่งทางราง รฟท. รฟม. และ รฟฟท. หารือร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางรองรับการจัดเก็บค่าโดยสารโดยยกเว้นค่าแรกเข้าเมื่อเดินทางเชื่อมต่อในระบบรถไฟฟ้า ทั้งการเตรียมสภาพทางกายภาพและเทคโนโลยีของบัตร Smart Card เพื่อรองรับการให้บริการผู้โดยสารที่มีการเชื่อมต่อโดยไม่ต้องชำระอัตราแรกเข้าซ้ำซ้อน
การเปิดทดลองการเดินรถเสมือนจริง ในเดือนมีนาคม 2564 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติให้ รฟท. เตรียมความพร้อมรองรับการเปิดทดลองการเดินรถเสมือนจริงในเดือนมีนาคม 2564 การเปิดทดลองให้บริการแบบไม่จัดเก็บค่าโดยสาร ในเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม 2564 และการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในเดือนพฤศจิกายน 2564
สำหรับอัตราค่าโดยสารที่เป็นข้อสรุปจากการประชุมครั้งนี้ คือ ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดง ทั้ง 2 เส้น คือจากตลิ่งชัน-บางซื่อ และบางซื่อ-รังสิต จะจัดเก็บค่าโดยสารในอัตรา 14-42 บาท ซึ่งตามผลศึกษา เป็นราคาที่ถือว่าไม่เป็นภาระต่อประชาชนและไม่สร้างผลขาดทุนให้แก่การรถไฟ ทั้งนี้ ภายหลังได้ข้อสรุปเรื่องราคา จะมีการรายงานผลให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม รับทราบ ก่อนที่จะมีการนำเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย พิจารณาอนุมัติใช้ อัตราดังกล่าวต่อไป