วันนี้ (20 ม.ค.) พรรคกล้า นำโดยนายพงศ์พรหม ยามะรัต รองหัวหน้าพรรค กลุ่มงานคุณภาพชีวิต พร้อมด้วยนายธันวา ไกรฤกษ์ โฆษกพรรค และสมาชิกพรรค ลงพื้นที่สี่แยกอโศก ติดตามปัญหามลพิษใจกลางกรุงเทพ พร้อมแจกหน้ากากอนามัยให้ประชาชนในพื้นที่ หลังจากมีค่าฝุ่นเกินกว่ามาตรฐานหลายวันติดต่อกัน
นายพงศ์พรหม กล่าวว่า จากสภาพที่เห็นมีรถสิบล้อ รถมอเตอร์ไซค์ รถเมล์ รถกระบะปล่อยมลภาวะ PM 2.5 และสารก่อมะเร็งมหาศาล มาตรฐานน้ำมันดีเซลที่ใช้อยู่ทุกวันคือยูโร 4 แต่รถเมล์ยังเป็นเครื่องน้ำมันดีเซลยูโร 3 ปล่อยมะเร็งอยู่ทุกวัน สิ่งที่ต้องแก้คือ 2 เรื่อง คือ ปรับมาตรฐานน้ำมันดีเซลจากยูโร 4 เป็นยูโร 5 ให้เร็ว ซึ่ง ปตท. บางจาก พร้อมอยู่แล้ว สามารถทำให้เกิดการขายกระจายในเมืองใหญ่ๆ ได้ทันที และรถกระบะ รถสิบล้อ รถยนต์ที่ควันดำ แต่เหตุใดกรมการขนส่งทางบกจึงปล่อยให้ต่อทะเบียน ขณะที่ตำรวจก็ไม่จับกุมซึ่งต้องเข้มงวดกว่านี้ ต้องมีกติกาในการจัดการรถ หรือจะเริ่มที่สี่แยกอโศกเป็นตัวอย่างก็ได้ เป็นปัญหาที่ต้องรีบจัดการ
ขณะที่นายธันวา ไกรฤกษ์ โฆษกพรรคกล้า เสนอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการกระทรวงที่เกี่ยวข้อง นำร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ของทางเครือข่ายอากาศสะอาด ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อ รวมถึงร่างฉบับกลุ่มประชาสังคม 17 จังหวัดภาคเหนือมาพิจารณาเร่งด่วน เพื่อให้การจัดองค์กรเฉพาะกิจขึ้นมากำกับดูแล และตั้งบอร์ดอากาศสะอาดมาจัดการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมากระทรวงที่เกี่ยวข้อง 6-7 กระทรวงไม่บูรณาการแก้ปัญหา มิหนำซ้ำมีรัฐมนตรีท่านหนึ่งกลับบอกว่ากฎหมายเดิมดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายใหม่ จะเป็นการเพิ่มภาระให้แก่หน่วยงานภาครัฐ แต่ความเป็นจริง ที่ผ่านมาปัญหาไม่เคยได้รับการแก้ไข ฝุ่นกรุงเทพมหานครเกินค่ามาตรฐานอยู่ที่ 200-300 AQI เกือบ 5 วันแล้ว ในภาคเหนือที่มีฤดูกาลเผา จังหวัดเชียงใหม่ บางวันสูงถึง 500 AQI ถ้ากฎหมายที่มีอยู่เพียงพอ คงไม่เห็นปัญหาแบบนี้ รัฐบาลจึงควรช่วยสนับสนุนกฎหมายภาคประชาชนอย่างเร่งด่วน ถ้ากฎหมายบังคับใช้ได้เร็ว สิ้นปีนี้ปัญหาต่างๆ ก็คงจะดีขึ้น