วันนี้ (16 ม.ค.) ที่ศาลแขวงพระนครใต้ พนักงานอัยการสำนักงานแขวง 4 ได้นำตัว น.ส.ศศิมา บัวจันทร์ กับพวก รวม 42 คน มายื่นฟ้องต่อศาลเป็นคดีดำที่ 0083/2564 ในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และข้อหาอื่นๆ โดยยื่นฟ้องว่า เนื่องจากปัจจุบันได้มีการแพร่เชื้อของโรคโควิด-19 จึงต้องมีมาตรการเข้มงวดเพื่อป้องกันมิให้เกิดการแพร่ระบาดและควบคุมมิให้เกิดการแพร่ขยายของเชื้อโรค และยังอยู่ในระหว่างประกาศภาวะฉุกเฉินอันมีเหตุร้ายแรง เพื่อควบคุมสถานการณ์
ต่อมาเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2564 จำเลยกับพวก รวม 42 คน ได้เข้าไปในร้าน T A J Cafe ถนนสุขุมวิท 23 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นร้านอาหารเปิดดนตรีประกอบเต้นรำ ทั้งได้เปิดโต๊ะอาหารไม่รักษาระยะห่างเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคติดต่อ ประกอบกับได้จัดให้ลูกค้าสูบและดูดบารากู่ โดยมีการเปิดให้ลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างด้าวเข้าไปมั่วสุมแออัดกัน เป็นการเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 กลายเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชกำหนดดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี จึงได้ทำการตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 42 คนไว้ได้ ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวมาฟ้อง
ต่อมาศาลมีคำพิพากษาว่า จำเลยทั้ง 42 มีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรา 9, 18 จำคุกคนละ 2 เดือน ปรับคนละ 10,000 บาท ให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 1 เดือน ปรับคนละ 5,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้ง 42 เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี
