นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กกรณีวานนี้ (17 ธ.ค.) นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวินแกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้แต่งชุดไทยสีแดงพร้อมสวมสร้อยและต่างหู โดยให้ความหมายจำลองเพชรบลูไดมอนด์ ปราศรัยทวงคืนความเป็นธรรมให้แก่ผู้ต้องหาคดีอาญา มาตรา 112 หน้า สน.ยานนาวานั้นว่า สิ่งที่คนปกติเขาไม่ทำ?
ผมเห็นข่าว เพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำกลุ่มราษฎร แต่งกายเป็นผู้หญิง สวมเสื้อผ้าด้วยชุดแดง ทาหน้าทาตา ทาปากสีแดง ไปให้กำลังใจผู้ต้องหา ตามความผิด ม.112 ผมก็ต้องกล่าวถึงเขาอีกครั้งหนึ่ง เพราะผมนึกหวั่นใจว่า ถ้าการชุมนุมประท้วงครั้งนี้ กลุ่มของเพนกวินชนะ แล้วมีการโหวตให้เพนกวินเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย วันดี คืนดี นายกรัฐมนตรีเพนกวิน อาจแต่งตัวแบบนี้ไปพบนายกรัฐมนตรีอังกฤษ แล้วบอกว่านี่เป็นเสรีภาพในการแต่งกายของนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย ผมว่าน่าจะยุ่งอยู่เหมือนกัน
ผมคงแก่เกินแกงที่จะเดินไปถามผู้ชุมนุมว่า เห็นภาพเพนกวิน เป็นอย่างนี้แล้ว ผู้ชุมนุมทั้งหลายคิดอย่างไร พวกเธอยังมีกะจิตกะใจ เดินตามหลังผู้นำแบบเพนกวินอยู่หรือ ทำไมพวกเธอไม่คิดเอง แล้วบังคับให้เพนกวินต้องเดินตามหลังพวกเธอบ้างล่ะพวกเธอก็พูดเป็น พวกเธอก็คิดเป็นไม่ใช่หรือ ทำไมพวกเธอต้องเดินตามผู้นำแบบเพนกวิน เธอภูมิใจกับผู้นำแบบนี้มากหรือ
ผมสงสัย และผมสงสัยมานานแล้วว่าเพนกวิน เขาเป็นคนปกติเหมือนคนทั่วไปหรือเปล่า หรือเขาเป็นคนที่มีความผิดปกติทางจิต หรือเขามีความเก็บกดทางจิตอะไรบ้างหรือเปล่า แต่ผมก็แอบสงสัยไว้ในใจไม่กล้าถามใคร บัดนี้ เมื่อเขาเป็นบุคคลสาธารณะไปแล้ว ผมจึงกล้าถาม ผมจึงกล้าตรวจสอบเขา ผมคิดไปไกลว่าเพนกวิน แกล้งทำเป็นคนผิดปกติ(คนบ้า) เพื่อเตรียมไว้ต่อสู้คดีว่าเป็นคนบ้าเพื่อไม่ต้องรับโทษทางอาญาหรือเปล่า
หรือแกล้งทำเป็นคนบ้าๆบอๆ ประเภทคุ้มดีคุ้มร้าย เพื่อจะได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษหรือเปล่า แต่ผมก็ไม่กล้าฟันธงล่ะ เอาเป็นว่าผมสงสัยก็แล้วกันว่า เพนกวินบ้าหรือเปล่า มิใช่ว่าความสงสัยของผมจะไร้เหตุผล เพราะคนทั่วไปผมไม่เคยเห็นใครเขาทำแบบนี้มาก่อน ผมไม่กล้าฟันธงว่า ไอ้หมอนี่มันบ้าหรือเปล่า ใครช่วยทำให้ผมหายสงสัยหน่อยเถอะ ช่วยจับไอ้หมอนี่ไปตรวจให้หน่อย ว่ามันบ้าจริง หรือมันแกล้งบ้ากันแน่
ถ้ามันปกติ ก็จะได้สบายใจว่า แกนนำผู้ชุมนุมเดี๋ยวนี้เขาเป็นอย่างนี้กันแล้ว ผมจะได้ทำใจและยอมรับ และถ้าใครจับเพนกวินไปตรวจ ผมจ่ายค่าตรวจให้เอง ผมประเดิมค่าตรวจให้ก่อน 10,000 บาท ไม่พอมาเบิกเพิ่มได้อีก เชื่อเถอะ ผมไม่เบี้ยวหรอก จับไปตรวจเถอะเพื่อความสบายใจของผม…ก็..ของคุณด้วยแหละ
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายนิพิฏฐ์ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีเพนกวิน และการถูกแจ้งข้อหาของบรรดาแกนนำม็อบว่า
อย่าตายประชดป่าช้า -ผมเห็นกลุ่มผู้ชุมนุม ทยอยเดินทางเข้ามอบตัวกันทุกวัน โดยเฉพาะการมอบตัวตามข้อหา มาตรา 112 อยากจะบอกน้องๆผู้ชุมนุมว่า ปกติความผิดตาม ม.112 ไม่ค่อยได้ประกันตัวหรอก หรือหากได้ประกันตัวก็จะต้องมีหลักทรัพย์มาวางเป็นหลักประกัน แต่ตอนนี้ กลุ่มผู้ชุมนุม ที่เดินทางเข้ามอบตัวเดินซดกาแฟ ดูดชาไข่มุกเดินขึ้นสถานีตำรวจกันแบบสบายๆ ชิว ชิว มอบตัวเสร็จก็เดินทางกลับบ้านโดยพนักงานสอบสวนมิได้ควบคุมตัว นี่คือสิ่งที่แปลกไปจากเดิม ถ้ายังไม่รู้ก็รู้เสีย
น้องๆกลุ่มผู้ชุมนุมบางคน เพิ่งเรียนกฎหมายอยู่ปี 3 บางคนเพิ่งจบมาปี สองปี ยังไม่รู้ว่าคำฟ้อง หรือ คำพิพากษาหน้าตาเป็นอย่างไร ผมนี่จบมา 40 ปีแล้ว ในช่วง 40 ปีนี่ผมใช้กฎหมายมาตลอด เห็นเพนกวิน พริษฐ์ ชิวารัก แต่งกายเป็นผู้หญิง ใส่ชุดแดง ทาปากแดง ไปเชียร์ผู้ที่มามอบตัวแล้วผมหมั่นไส้
ลองฟังผมหน่อยเถอะ คำพูด หรือ ข้อเขียนที่น้องๆใช้พูดหรือเขียนในการปราศรัยนั้น ผมฟังและอ่านมาตลอด นี่ถ้าให้ผมเป็นทนายความว่าความให้ ผมยังนึกไม่ออกว่าจะสู้คดีอย่างไรจึงจะชนะ ใครเป็นที่ปรึกษากฎหมาย หรือเป็นทนายความให้น้องๆ ผมว่าเราควรเคารพวิชาชีพกฎหมาย บอกน้องๆ ไปตามจริงเถอะว่าเขากำลังจะเผชิญกับอะไร
เมื่อน้องๆ มอบตัวแล้ว ต่อไปน้องๆ ก็ต้องไปอัยการ -ไปศาล -ไปเรือนจำ หรือ ดีหน่อยก็อาจได้กลับบ้าน วัฏจักรของคดีความมันไม่หนีไปจากนี้หรอก อย่าตายประชดป่าช้าเลย ไม่มีประโยชน์หรอก คนที่เชียร์อย่างดีก็ทำได้เพียงไปวางดอกไม้จันทน์ แล้วกลับบ้าน ดีขึ้นไปหน่อยก็ไปช่วยลองอังคาร แล้วต่างก็กลับบ้าน บ้านใคร บ้านมัน แค่นั้นแหละ