รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า สถานการณ์ทั่วโลกล่าสุด 27 กันยายน 2563 ทะลุ 33 ล้านไปเรียบร้อยแล้ว อัตราเร็ว 1 ล้านคนทุกสามวันกว่าๆ
เมื่อวานติดเพิ่มไปอีก 324,049 คน รวมแล้วตอนนี้ 33,035,030 คน ตายเพิ่มถึง 6,077 คน ยอดตายรวม 998,086 คน
พรุ่งนี้จะมีสถิติใหม่คือ ทั่วโลกจะมีคนเสียชีวิตเกิน 1 ล้านคน และอินเดียจะมีผู้ติดเชื้อรวมเกิน 6 ล้านคน
อเมริกา ติดเพิ่ม 55,339 คน รวม 7,284,350 คน ตายเพิ่มเกือบพัน
อินเดีย ติดเพิ่ม 88,937 คน รวม 5,990,513 คน ตายเพิ่มเกินพัน
บราซิล ติดเพิ่ม 28,378 คน รวม 4,717,991 คน
รัสเซีย ติดเพิ่ม 7,523 คน รวม 1,143,571 คน เป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อันดับ 5-10 แต่ละประเทศยังคงลำดับเดิม โคลอมเบีย เปรู เม็กซิโก สเปน อาร์เจนตินา แอฟริกาใต้ ติดกันระดับเกือบพันถึงหมื่นกว่าคนต่อวัน
หลายประเทศในยุโรป ทั้งฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร อิตาลี เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ติดกันเพิ่มหลักพันถึงหมื่นกว่าอย่างต่อเนื่อง
ญี่ปุ่น และเมียนมาร์ ติดเพิ่มกันหลายร้อย ส่วนจีน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ มาเลเซีย และออสเตรเลียติดเพิ่มกันหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกง และนิวซีแลนด์ก็ยังมีติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
สถานการณ์ในเมียนมาร์นั้นยังรุนแรงต่อเนื่อง ติดเพิ่มไปอีกถึง 879 คน ตายเพิ่มอีก 24 คน ตอนนี้ยอดรวมถึง 9,991 คน ตายไปมากถึง 198 คน อัตราตายตอนนี้ขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาถึง 2% แล้ว คาดว่าหากวันนี้ติดเพิ่มเกินเก้าร้อยคน จะมียอดรวมแซงมาเลเซีย
หายนะการระบาดของไวรัสโรค COVID-19 นั้น มีโอกาสเกิดขึ้นได้สูงมาก หากทะนงตนคิดว่าจะจัดการเอาอยู่ การปรามาสมันว่าเป็นหวัดธรรมดา การดูถูกมันว่าโอกาสตายน้อย และการมุ่งกอบโกยผลประโยชน์ส่วนตนเหนือส่วนรวม ยอมเอาชีวิตคนหมู่มากเข้าแลกกับการอุ้มธุรกิจการเมือง และสำคัญที่สุดคือ การไปรับใช้ธุรกิจการเมือง เปลี่ยนโควิดเป็นนิทานผีน้อย
ผีน้อยนั้น คงไม่สามารถทำให้คนติดเชื้อไปมากมายมหาศาลเช่นนี้
ผีน้อยนั้น คงไม่สามารถทำให้คนตายไปเป็นล้าน
ผีน้อยนั้น คงไม่สร้างความเสียหายทางสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ไปทั่วโลกขนาดนี้
ผีน้อยนั้น ทำได้อย่างมากก็ให้รู้สึกกลัว หรือรู้สึกน่ารักหากเป็นแบบแคสเปอร์
แต่เรื่องโควิดเป็นผีน้อยนั้น อาจเป็นตราบาปที่จะติดตัวไปนานเท่านาน หากข่าวลวงนี้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อคนหมู่มากที่หลงเชื่อ ไม่ป้องกันตัว ประมาท และเฮโลกันเชียร์ให้เกิดการกระทำใดๆ ที่นำความเสี่ยงระบาดซ้ำสู่ประเทศ จากความเป็นไปในสังคมปัจจุบัน "หิริโอตตัปปะ"เป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องสอนลูกหลาน ไม่ให้เลียนแบบการกระทำใดๆ ที่ไม่ถูกต้อง โดยไม่เกรงกลัวต่อบาป
จะชนะศึกโรคระบาดนี้ได้ ต้องร่วมมือร่วมใจกัน ป้องกันตัวอย่างเต็มที่ ใช้ชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อดทน อดกลั้น อดออม ยืนบนขาตนเอง ลดการพึ่งพาต่างชาติ
ถ้ามุ่งแต่จะทำทุกทางเพื่อเปิดประเทศหาเงินมาให้ได้มากที่สุดท่ามกลางภาวะวิกฤติโรคระบาดรุนแรงทั่วโลกเช่นนี้ หายนะจะตามมาอย่างแน่นอน ทั่วโลกมีบทเรียนให้เราเห็นแล้ว
รัฐควรทบทวนนโยบายการเปิดประเทศ ชะลอการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และอย่าหลงคารมการล่อด้วยกิเลสเม็ดเงินด้วยการลดระยะเวลากักตัว
ระบบกักตัว 14 วันนั้นเป็นหัวใจหลักที่จำเป็นต้องทำ