นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีกลุ่มปลดแอก กลุ่มแนวร่วม หรือกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มประชาธิปไตยทั้งหลาย พยายามที่จะดำเนินการจัดการชุมนุมสาธารณะขึ้นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันที่ 19 กันยายนนี้ เพื่อเรียกร้องให้มีการยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน และร่างรัฐธรรมนูญใหม่ รวมทั้งการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยนั้น การกระทำของกลุ่มต่างๆ ดังกล่าวก่อนหน้านี้มีการจัดชุมนุมอย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ทั้งในและนอกสถานศึกษา ซึ่งแกนนำผู้จัดการชุมนุมและผู้ที่ปราศรัยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกและตั้งข้อกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์และการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายหลายข้อหา หลายกรรม หลายวาระ บางรายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีคำร้องฝากขังยังศาลแล้ว และศาลได้มีเมตตาให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยมีเงื่อนในระหว่างประกันตัวออกมา แต่ก็ยังมิหลาบจำ กลับออกมาดำเนินการในลักษณะที่ส่อไปในทางที่ขัดต่อกฎหมาย และอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนเงื่อนไขการประกันตัวกันหลายคน
การออกมาขับเคลื่อนโดยการจัดชุมนุมในพื้นที่จังหวัดต่างๆ และการประกาศว่าจะมีการจัดการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 กันยายนนี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีกลุ่มผลประโยชน์หรือกลุ่มทุนอยู่เบื้องหลัง หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า "ท่อน้ำเลี้ยง" เพราะการจัดชุมนุมสาธารณะแต่ละครั้งจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอย่างมากมาย ทั้งค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าเวที ค่าเครื่องเสียง ค่ารถสุขา ค่าวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ จิปาถะมากมาย ฯลฯ ซึ่งเป็นจำนวนเงินมิใช่น้อย ลำพังนักเรียน นักศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่มีรายได้ ต้องแบมือขอเงินจากพ่อแม่ผู้ปกครองมาใช้ จะนำเงินมากมายมาใช้จ่ายเพื่อการจัดชุมนุมเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก
ทั้งนี้ การจัดชุมนุมที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีบุคคลต่างๆ ที่แสดงตนเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับการชุมนุมดังกล่าวหลายคน รวมทั้งกลุ่มต่างๆ ก็ยังได้เปิดบัญชีธนาคารรับบริจาคเผยแพร่ในสื่อออนไลน์มากมาย ซึ่งการชุมนุมสาธารณะที่ผ่านมาปรากฏโดยชัดเจนว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายมากมาย จึงเข้าองค์ประกอบในความผิดมูลฐาน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งที่ผ่านมาพนักงานเจ้าหน้าที่ยังมิได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ที่ร่วมบริจาค หรือเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด
การที่มีผู้ร่วมบริจาคเงินผ่านบัญชีของกลุ่มต่างๆ ที่เปิดรับการบริจาค เพื่อเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับการชุมนุมที่ผิดกฎหมายนั้น ถือได้ว่าเป็น "ตัวการร่วม" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และมาตรา 86 ในฐานะผู้สนับสนุนให้มีการกระทำความผิดฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมือง ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความไปร้องเรียนต่อ ปปง. เพื่อให้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการสั่งให้ธนาคารต่างๆ ที่บุคคล หรือกลุ่มต่างๆ เปิดบัญชีรับบริจาคเพื่อจัดการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย รายงานให้กับ ปปง.ทราบว่ามีใครบ้างที่บริจาคเข้าบัญชีเหล่านั้นบ้าง เพื่อที่ ปปง.จะได้เรียกมาดำเนินการไต่สวนสอบสวนเอาผิดต่อไป โดยสมาคมฯ จะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันพุธที่ 16 กันยายนนี้ เวลา 10.30 น. ณ สำนักงาน ปปง. ถนนพญาไท วังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร