นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart หัวข้อ “คิดผิดคิดใหม่ได้” ระบุว่า หลังเหตุการณ์ 14 ตุลา เกิดปรากฏการณ์ "ดอกไม้บานร้อยดอก" ขบวนการนักศึกษาตื่นตัวเรื่องประชาธิปไตย และสนใจสังคมนิยมและคอมมิวนิสต์
ในเวลาเดียวกัน ในลาวก็มีขบวนการนักศึกษาเช่นกัน เรียกว่า ขบวนการนักศึกษา 21 องค์การ ที่เคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย ร่วมมือกับฝ่ายสังคมนิยมของขบวนการ
ปะเทดลาว (พรรคคอมมิวนิสต์ลาว)
โค่นล้มเจ้ามหาชีวิต และรัฐบาลของกลุ่มลาวกลางที่มีเจ้าสุวรรณภูมาเป็นนายกฯ แต่สุดท้ายเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์ลาวชนะ กลุ่มนักศึกษา 21 องค์การต้องหนีการปราบปรามของรัฐบาลลาวใหม่เข้ามาอยู่ในศูนย์อพยพที่จังหวัดหนองคาย
ทั้งหมดนี้ มีผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น พรรคคอมมิวนิสต์ มหาอำนาจที่แข่งขันกันสร้างอิทธิพลต่อคนไทยและแผ่นดินไทย
ผมได้มีโอกาสรู้จักพูดคุยกับอดีตแกนนำเหล่านั้นหลายคน ส่วนใหญ่จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อ่อนประสบการณ์ รู้น้อย ถูกคนของพรรคคอมมิวนิสต์ลาวปลุกระดม ล้างสมองให้ก้าวออกมาต่อสู้ สุดท้ายต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัยไม่มีแผ่นดินจะอยู่ แปรสภาพตัวเองเป็นกลุ่มต่อต้านลาวที่พยายามต่อสู้โค่นล้มรัฐบาลของ สปปล.
อยากเตือนกลุ่มที่เคลื่อนไหวต่อต้านสถาบัน ให้นึกถึงเหตุการณ์ทรยศหักหลังกันเองของคณะราษฏร รวมทั้งกลุ่มนักปฏิวัติโค่นล้มพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ที่หักหลังสังหารกันเองอย่าคิดแต่จะชนะฝ่ายเดียว แพ้ขึ้นมาไม่ตายก็ติดคุก หรือกลายเป็นผู้อพยพ
รักชาติได้ คิดอยากเปลี่ยนแปลงได้ แต่ต้องไม่ทำลายล้างสถาบันหลักของไทย สถาบันกษัตริย์ สถาบันครอบครัว อย่าสร้างความแตกแยกในประเทศ หากผิดพลาดจะเสียใจไปจนวันตาย